การเก็บมะเขือเทศ ให้ได้คุณภาพ

ในที่สุดช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นั้นก็คือช่วงเวลาของการเก็บผลผลิตมะเขือเทศในแปลงปลูก ของเรานั้นเอง มะเขือเทศที่เราเฝ้าดูแลมานานหลายเดือนตั้งแต่เพาะเมล็ด ผลิดอกแรก จนถึงเก็บเกี่ยว เพื่อให้ ได้มะเขือเทศช่อสวย สีแดงสด ผลเต่งตึง รสชาติหวานอร่อย ถ้าใครได้ลองแล้วรับรองติดใจ ต้องกลับมาขอซื้อ ซ้ํากันเลยทีเดียว

การเก็บเกี่ยวมะเขือเทศขึ้นอยู่กับพันธุ์ โดยเฉลี่ยแล้วเมื่อปลูกได้ประมาณ 30-45 วัน มะเขือเทศจะเริ่มออกดอก และจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 70-90 วัน ซึ่งเราเก็บผลผลิตได้ต่อเนื่อง 2-3 เดือนระยะเวลารวมตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงช่วงเก็บเกี่ยวจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือน อีกทั้งอายุในการเก็บเกี่ยวนั้นก็จะขึ้นอยู่กับการปลูกและการดูแลรักษามะเขือเทศของเราด้วย

วิธีการเก็บมะเขือเทศ

  • เก็บผลผลิตมะเขือเทศที่มีผลขนาดใหญ่ ผลมีขนาดสม่ำเสมอ ผิวเรียบ ผลไม่แตก สีผลเมื่อสุกเต็มที่แดงสม่ำเสมอ และมีขั้วผลติด หากส่งขายหรือตามตลาดสด จะต้องเก็บในช่วงที่ผลผลิตไม่แก่จนเกินไป อาจจะเก็บในช่วงที่ผลผลิตกำลังเปลี่ยนเป็นสีแดง หรือเริ่มเป็นสีชมพูเรื่อ เมื่อผลผลิตถึงตลาดสดและถึงมือผู้บริโภค ผลผลิตก็จะสุกเต็มที่โดยมีสีแดงสดพอดี
  • สุ่มวัดความเปรี้ยวและความหวานของผลมะเขือเทศ โดยใช้กระดาษลิตมัส สำหรับการตรวจสอบค่าความเป็นกรดหรือด่าง (เบส) มะเขือเทศในแปลงปลูก ได้ค่า total acidity เท่ากับ 5 และใช้เครื่องวัด Brix Refractometer แบบดิจิตอล วัดความหวานจากมะเขือเทศ วัดค่าได้ 11 %Brix แสดงว่ามะเขือเทศในแปลงที่เราปลูกมีกรดมากและน้ำตาลมาก มะเขือเทศจะมีรสจัด

  • วางมะเขือเทศในภาชนะที่สะอาด และภายหลังการเก็บเกี่ยวรีบนำเข้าที่ร่ม
  • นำมาตัดแต่งผลที่มีขนาดเล็กและผลที่มีสีเขียวออก คัดขนาดตามมาตรฐานของผู้รับซื้อ
  • เช็ดทำความสะอาดผล นำมาบรรจุใส่กล่อง และเก็บรักษาผลผลิตในตู้เย็น ซึ่งจะเก็บได้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิประมาณ 4-10องศาเซลเซียส

เพียงเท่านี้การเก็บผลผลิตมะเขือเทศที่เรารอคอยมานานก็สำเร็จ สามารถนำไปขายหรือนำไปแจกเป็นของขวัญก็ดูดีไม่แพ้ของขวัญชิ้นแพงๆที่ไหนเลย เพราะมะเขือเทศกล่องนี้มาจากการดูแลเอาใจใส่ ความอดทนพยายาม และไม่ยอมแพ้กับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับมะเขือเทศในแปลงของเรา จนได้มะเขือเทศกล่องนี้มา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในปัจจุบันแนวโน้มการจัดการการเกษตรจะชัดเจนขึ้น โดยการเปลี่ยนวิถีดั้งเดิมของเกษตรกรให้เป็นเกษตรกรที่เต็มไปด้วยองค์ความรู้ ผลิตผลที่มีคุณภาพผ่านการควบคุมสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนี้ทางคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงเริ่มโครงการโรงเรือนอัจฉริยะ (FOA Smart Greenhouse) โดยผู้ใช้สามารถ
ปัจจุบันโดรนการเกษตรเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยอย่างแพร่พลาย เนื่องจากสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านแรงงานและช่วยประหยัดเวลาในขั้นตอนการดูแลรักษาพืชได้อีกด้วย การใช้โดรนในการดูแลรักษาพืชนั้นส่วนใหญ่จะเน้นเป็นการพ่นสารป้องกันกำจัดโรค แมลง และให้อาหารเสริมทางใบแก่พืช โดยนิยมใช้กับพืชหลักเศรษฐกิจ เช่น ข้าว
ปัจจุบันเทคโนโลยีโรงเรือนอัจฉริยะ (Smart Green House) ได้เข้ามามีบทบาทในภาคการเกษตรไทยมากขึ้น เนื่องจากสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ และยังลดความเสี่ยงการเกิดโรคและแมลงซี่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรเสียหาย วันนี้จะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับเจ้าของสวนราชามะเขือ