การใช้ระบบ GPS เพื่อระบุพิกัดแปลงอ้อยด้วยโทรศัพท์ (สมาร์ทโฟน)

อุตสาหกรรมการเกษตรกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน (Climate Change) ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แรงงานสูงวัย และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เกษตรกรต้องพัฒนาศักยภาพในการทำการเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างคุ้มค่า และมีประโยชน์สูงสุดโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ในอดีตกิจกรรมในไร่อ้อย เช่น การปรับระดับพื้นที่ การควบคุมระยะปลูกให้มีคุณภาพ การใส่ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพดิน เป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะความชำนาญ และมีต้นทุนสูง ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำได้เข้ามามีบทบาทเพื่อช่วยให้เกษตรกรทำงานได้รวดเร็วขึ้น

ระบบเกษตรแม่นยำสำหรับไร่อ้อยที่ได้พัฒนาขึ้นโดยใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (GNSS-Global Navigation Satellite System) ควบคู่กับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS-Geographic Information System) ในการควบคุมการทำงานของเครื่องจักรโดยใช้พิกัดอ้างอิงจากดาวเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและการวางแผน การทำแผนที่และออกแบบแปลง การเก็บตัวอย่างดินและทำแผนที่ การควบคุมเครื่องจักรและตรวจสอบคุณภาพการทำงาน การปรับอัตราปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การให้น้ำตามความชื้นของดินและความต้องการของพืช และทำแผนที่ผลผลิต เป็นต้น

หลักการทำงาน

ดาวเทียมที่โคจรรอบโลกกระจายสัญญาณวิทยุระบุตำแหน่ง สถานะ เวลาของดาวเทียม สัญญาณดาวเทียมเดินทางในอวกาศด้วยความเร็วมากกว่า 299,000 กิโลเมตร/วินาที เครื่องรองรับสัญญาณดาวเทียมที่เครื่องจักรรับสัญญาณวิทยุและคำนวณระยะห่างจากดาวเทียมโดยจะต้องรับสัญญาณจากดาวเทียมอย่างน้อย 4 ดวง เพื่อคำนวณพิกัดแบบสามมิติ

ระดับความแม่นยำ

ระดับความแม่นยำของการระบุตำแหน่งด้วยสัญญาณดาวเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ ความคลาดเคลื่อนนาฬิกา คุณภาพของเครื่องรับสัญญาณ ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งโทรศัพท์มือถืออาจคลาดเคลื่อนในรัศมี 5 เมตร ถ้าใช้งานในสภาพอากาศเปิดไม่มีสิ่งกีดขวาง แต่หากใช้ในบริเวณอาคารอาจทำให้ระดับความคลาดเคลื่อนสูงขึ้น เป็นต้น

ระบบควบคุมเครื่องจักรกลการเกษตรต้องการระดับความแม่นยำที่สูงในการทำงาน ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพการรับสัญญาณและการประมวลผลที่ดีขึ้น จึงอาจทำให้มีราคาที่สูงกว่าอุปกรณ์ที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งสามารถแบ่งระดับความคลาดเคลื่อนและรูปแบบการใช้งานเป็น 4 ระดับ ดังนี้

ส่วนประกอบ

1. อุปกรณ์ที่ติดตั้งบน รถแทรกเตอร์หรือเครื่องจักร

1.1 หน้าจอและเสารับสัญญาณดาวเทียม ทำหน้าที่รับข้อมูลจากสัญญาณดาวเทียมเพื่อประมวลผลแสดงตำแหน่งและทิศทางที่ รถแทรกเตอร์เคลื่อนที่ กำหนดรูปแบบการทำงาน เช่น การสร้างขอบเขตแปลงและคำนวณพื้นที่ การกำหนดระยะห่างแนวปลูก ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลเพื่อใช้ในการทำงานขั้นตอนต่อไปได้

1.2 ระบบควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ ทำหน้าที่ควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของ รถแทรกเตอร์อัตโนมัติ เช่น เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรง เป็นแนวเส้นโค้ง หรือเป็นแนววงกลม ระยะห่างระหว่างแถวปลูกสม่ำเสมอ สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่สูงสุด ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานสะดวกสบายอย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังช่วยขยายเวลาการทำงานต่อวันได้มากขึ้น เช่น การทำงานในช่วงเวลารุ่งสางหรือพลบค่ำ

2. สถานีภาคพื้นดิน RTK-Real Time Kinematic

สถานีภาคพื้นดินทำหน้าที่รับสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์ได้ค่าพิกัดทันที ณ เวลาทำการรังวัดซึ่งมีตำแหน่งคงที่ รถแทรกเตอร์หรือเครื่องจักรจะรับสัญญาณสถานีภาคพื้นดินระบุตำแหน่งคงที่พร้อมกับสัญญาณดาวเทียม แล้วนำมาคำนวณพิกัดที่มีความแม่นยำสูง

3. โปรแกรมการออกแบบและการจัดการ 

ประโยชน์ที่สำคัญของการใช้งานระบบนำทางด้วยดาวเทียมนอกจากการควบคุมเครื่องจักรกลในไร่ คือ การนำข้อมูลมาใช้ในการประเมินและวิเคราะห์คุณภาพการทำงาน เพื่อการวางแผนและบริหารจัดการเครื่องจักรกลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

กราฟแสดงผลการทำงาน

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรงเรือนอีแว๊ป (Evap) ย่อมาจาก Evaporative cooling system ช่วยลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนเหมาะสำหรับการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้สามารถออกผลได้ตลอดทั้งปี สะดวกในการดูแล สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก รวมถึงลดความเสี่ยงผลผลิตเสียหายจากแมลงและฝน
ปัจจุบันอาชีพที่คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนมากขึ้น คือ อาชีพเกษตรกร เนื่องจากต้องการหนีความวุ่นวาย มลพิษในเมืองใหญ่ และความกดดันจากปัญหาต่างๆในการทำงาน รวมถึงอยากเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง วันนี้เราจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักเกษตรกรอายุน้อย คุณปิยะ กิจประสงค์ บ้านเลขที่ 73 ม.7 ต.ปลายนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพ
ภัยแล้งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย โดยปัญหาภัยแล้งเกิดจากหลายสาเหตุทั้งสาเหตุโดยธรรมชาติ เช่น การเปลี่ยนแปลงฤดูกาล และสาเหตุจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า ผลกระทบของภัยแล้งทำให้พืชขาดน้ำ การเจริญเติบโตหยุดชะงัก ปริมาณและคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ สร้างความ