ปลูกกระชาย อย่างไรให้กลายเป็นพืชที่สร้างรายได้หลังช่วงโควิด

ปลูกกระชาย อย่างไรให้กลายเป็นพืชที่สร้างรายได้หลังช่วงโควิด

ปลูกกระชาย อย่างไรให้กลายเป็นพืชที่สร้างรายได้หลังช่วงโควิด? หลังการการแพร่ระบาด
ของโรคโควิด-19 กระแสของการ ปลูกกระชาย นั้นถือว่าเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากกระชายเป็นพืชสมุนไพรที่มี
สรรพคุณหลากหลาย เช่น แก้หวัด แก้ไอ ฯลฯ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายและยังสามารถ
สกัดเป็นยาสมุนไพรต้านโควิดได้ 

ดังนั้นในปีนี้หากใครที่มีที่ดินสำหรับการเพาะปลูกเหลืออยู่และกำลังสนใจการ ปลูกกระชาย ไม่ว่าจะเป็น
การปลูกเพื่อรับประทานเองหรือปลูกส่งขายสร้างรายได้ KAS หรือ Kubota (Argi) Solutions
เลยขอมาแนะนำเคล็ดลับการปลูกกระชาย ให้ได้ผลผลิตดีจนกลายเป็นพืชที่สร้างรายได้หลังช่วงโควิด

ขั้นตอนการ ปลูกกระชาย ให้ได้ผลผลิตดีต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ?

สำหรับขั้นตอนการ ปลูกกระชาย ให้ได้ผลผลิตดีนั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างตั้งแต่การเตรียมดิน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ไปจนถึงการดูแลรดน้ำ เช็กสุขภาพของต้นกระชาย โดย KAS หรือ Kubota (Argi) Solutions ได้รวบรวมขั้นตอนการ ปลูกกระชาย ให้ได้ผลผลิตดีสำหรับเกษตรกรยุคใหม่มาให้แล้ว ดังนี้

1. การเตรียมดินเพื่อปลูกกระชาย

กระชายเป็นพืชที่ชอบดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำได้ดี การเตรียมดินให้เหมาะสม
จึงมีความสำคัญ โดยควรไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไป
ประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อหลุม จากนั้นจึงยกร่องให้สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : ดินที่เหมาะกับการปลูกพืช มีอะไรบ้าง? รู้จักประเภทของดินแต่ละชนิด

2. การเตรียมต้นพันธุ์

ต้นพันธุ์กระชายที่ดีควรมีอายุประมาณ 3-4 เดือน มีลำต้นอวบ แข็งแรง ไม่มีโรคและแมลงรบกวน
การปลูกกระชายสามารถทำได้ทั้งแบบใช้เหง้าและแบบใช้ต้น

3. การลงมือปลูกกระชาย

การปลูกกระชายแบบใช้เหง้า ให้วางเหง้าลงบนร่องปลูก โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร จากนั้นกลบดินให้มิดเหง้า การปลูกกระชายแบบใช้ต้น ให้ปักต้นกระชายลงบนร่องปลูก
โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30 x 30 ซม. จากนั้นกลบดินให้มิดต้นเพื่อเตรียมใส่ปุ๋ยในขั้นตอน
ต่อไป

ภาพจาก Etsy

4. การใส่ปุ๋ยให้ต้นกระชาย

ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้กระชายทุก 3 เดือน อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อหลุม ในช่วงที่กระชายออกดอกและติดผล ควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะต่อต้น

5. การให้น้ำต้นกระชาย

กระชายเป็นพืชที่ชอบน้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่กระชายยังเล็กและในช่วงที่กระชายออกดอกและติดผล แนะนำว่าในการรดน้ำสำหรับการปลูกกระชายนั้นควรต้องรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำกระชายทุกวันเช้า-เย็น ในช่วงที่อากาศร้อน

6. การกำจัดวัชพืชและเฝ้าระวังโรค

ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากกระชาย และที่สำคัญคือ
ต้องคอยหมั่นตรวจเช็กโรคพืช ที่จะเข้ามาทำลายผลผลิตของคุณ โดยเฉพาะ โรคเน่า (หรือโรคลำต้นเน่า)
ที่จะพบเจอส่วนใหญ่ในดินทรายหรือดินที่สภาพเป็นกรด ซึ่งเมื่อกระชายที่ปลูกไว้เกิดโรคเน่าเมื่อไรจะทำให้
ต้นตาย ไม่สามารถนำไปขายต่อได้

TIPS : ควรหลีกเลี่ยงการปลูกกระชาย ที่เดิมซ้ำหลาย ๆ ปี หรือถ้าจะปลูกที่เดิมซ้ำต้องหมั่นตรวจเช็กดินเสมอ ไม่ให้ดินมีความเป็นกรดมากเกินไป (ดินเปรี้ยว) คอยหมั่นหยอดปูนขาวลงไปในดินเพื่อป้องกันดิน
มีกรดมากเกิน หรือลองนำเศษฟาง, หญ้าแห้งมาปลกคลุมหน้าดินบริเวณที่ปลูกกระชายไว้ เพื่อรักษาความชื้นในดิน

ปลูกกระชายนานแค่ไหน ถึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ ?

กระชายจะมีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 9-10 เดือน หลังจากปลูกกระชาย สังเกตว่าลำต้นกระชาย
เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนและเหี่ยวลง แสดงว่ากระชายพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว ให้ใช้มือจับหัวกระชาย
ขึ้นมาจากดิน แล้วตัดใบและรากทิ้ง เพียงเท่านี้ก็สามารถเก็บเกี่ยวกระชายเพื่อนำไปประกอบอาหาร
หรือขายต่อเพื่อสร้างรายได้ให้กับคุณได้แล้ว

โดยทั้งนี้ กระชายเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทานต่อโรคและแมลงรบกวน หากดูแลจัดการอย่างเหมาะสม
จะสามารถเก็บเกี่ยวกระชายได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี ส่งผลให้มีรายได้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
(ขึ้นอยู่กับจำนวนและปริมาณของกระชายที่คุณปลูกด้วย)

ภาพจาก specialty produce

ประโยชน์ของการปลูกกระชาย ที่คุณต้องรู้มีอะไรบ้าง ?

การปลูกกระชาย นั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อเกษตรกรยุคใหม่ทุกคน โดยเฉพาะในช่วงที่หลังการระบาด
ของโควิด-19 ที่ผู้คนหันมาสนใจกับเรื่องของสุขภาพมากขึ้น

ช่วยสร้างรายได้เสริมหรือรายได้หลัก

หากคุณมีเนื้อที่ภายในบริเวณบ้าน หรือมีสวน/ไร่ ที่ปลูกพืชอื่นอยู่แล้วมีเนื้อที่เหลือ อยากเปลี่ยนเนื้อที่นั้นให้สร้างรายได้เสริมได้ การปลูกกระชายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะกระชายเป็นพืชสมุนไพร
ที่มีความต้องการสูงทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ราคากระชายมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังการระบาดของโควิด-19 หากปลูกกระชายอย่างมีคุณภาพ จะสามารถขายได้ราคาดี
สามารถสร้างรายได้เสริมหรือรายได้หลักให้กับเกษตรกรยุคใหม่ได้

เลือกปลูกได้ทั้งกระชายขาวและกระชายดำ

หลายคนอาจจะรู้จักกระชายขาว ที่เป็นกระชายสายพันธุ์ที่นิยมมาใช้เป็นส่วนประกอบอาหารไทยต่าง ๆ
แต่ความจริงแล้ว กระชาย ยังมีอีกสายพันธุ์ที่มีความต้องการในตลาดสูงไม่แพ้กันนั่นก็คือ กระชายดำ
ซึ่งเป็นกระชายที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านเชื้อจุลินทรีย์บำรุงหัวใจ และโรคลมทุกชนิด
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการปลูกกระชายอีกสายพันธุ์

ใช้รับประทานเองเป็นสมุนไพรต้านโควิด

กระชายเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลาย เช่น แก้หวัด แก้ไอ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย ฯลฯ จึงนิยมนำมารับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพ หากปลูกกระชายไว้รับประทานเอง จะได้กระชาย
ที่สด สะอาด และปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง

สรุปเกี่ยวกับการปลูกกระชาย

การปลูกกระชายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้เสริมหรือรายได้หลักในช่วง
หลังการระบาดของโควิด-19 เพราะกระชายเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทานต่อโรคและแมลงรบกวน
หากดูแลจัดการอย่างเหมาะสม จะสามารถเก็บเกี่ยวกระชายได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปี ส่งผลให้มีรายได้
อย่างสม่ำเสมอ ทั้งรายได้หลักและรายได้เสริม เปลี่ยนเนื้อที่ว่างเปล่าให้มีประโยชน์มากขึ้น

สำหรับใครที่ชอบเนื้อหาสาระที่เรานำฝากกันในบทความนี้ อย่าลืมติดตามบทความด้านการเกษตรยุคใหม่
ได้ทุกสัปดาห์ที่เว็บไซต์ KAS Kubota (Argi) Solution สาระความรู้ด้านการเกษตรเพื่อเกษตรกรไทย
ทุกคน

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนอนผีเสื้อหัวกะโหลก (Acherontia styx ; Death’s head hawk month) หรือเกษตรกรมักจะเรียกว่า “หนอนแก้ว” เป็นแมลงศัตรูที่มีพืชอาหารกว้าง พบในถั่วงา มะเขือ ยาสูบ มันเทศ ม่านบาหลี และแตง เป็นต้น วงจรชีวิตของหนอนผีเสื้อหัวกะโหลกใช้เวลา 49-56 วัน ผีเสื้อเพศเมียหนึ่งตัววางไข่ได้ประมาณ 125-156
แช่ท่อนพันธุ์ ปลูกมันฯ รวยแน่ ค่าสารเคมีไร่ละ 20 บาท เท่านั้น
ปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ คือการดำรงไว้ซึ่งความมีชีวิตของเมล็ดพันธุ์ (seed) ให้ยาวนานออกไป ฉะนั้นในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จึงมีปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหลายประการ แต่โดยทั่วไปอาจสรุปได้ 2 ประการ คือ 1.ปัจจัยภายใน 1.1 ชนิดของเมล็ดพันธุ์(species)