ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวร้อยละ 50 ของพื้นที่ทำการเกษตร ทำรายได้ปีละประมาณ 2 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามเกษตรกรในเขตพื้นที่ชลประทานนิยมปลูกข้าวมากกว่า 2 ครั้งต่อปี หรือปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเกิดวิกฤติการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงในการปลูกข้าว อีกทั้งการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องกระทบต่อระบบนิเวศน์ เกิดปัญหาดินเสื่อมโทรม พบการระบาดของข้าววัชพืชตลอดจนโรคและแมลงศัตรูอย่างต่อเนื่อง
การปลูกพืชไร่ เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำในการปลูกพืช โดยเน้นพืชที่ใช้น้ำน้อยเมื่อเทียบกับการปลูกข้าว หรือการปลูกผัก พืชไร่ นับเป็นพืชที่มีคุณลักษณะที่เหมาะสม คือ อายุเก็บเกี่ยวสั้น ใช้น้ำน้อย และยังเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินได้ แต่การนำพืชไร่ซึ่งโดยธรรมชาติต้องการดินร่วนซุย มีการระบายน้ำดี และมีน้ำขังในบางครั้ง จึงต้องมีการปรับปรุงวิธีการเขตกรรมและการดูแลรักษาให้เหมาะสม
ประโยชน์ของการปลูกพืชไร่ใช้น้ำน้อย
1.ลดการใช้น้ำเมื่อเทียบกับข้าว
พืช | ปริมาณการใช้น้ำ(ลูกบาศก์เมตร/ไร่) | |
ข้าวนาปรัง | 1920 | |
ถั่วเขียว | 320-400 | |
ถั่วลิสง | 610 | |
ถั่วเหลือง | 480-560 | |
ข้าวโพดหวาน | 410-500 | |
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ | 720-800 |
2.ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ
ระบบปลูกพืชไร่หมุนเวียนสลับกับการปลูกข้าวเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำได้ดีกว่าการทำนาปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง โดยพืชไร่ที่สามรถปลูกได้ผลดี มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น ได้แก่ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดฝักอ่อน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
3.ลดการระบาดของแมลงศัตรู
- เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
- หอยเชอรี่
ข้อควรปฎิบัติในการปลูกพืชไร่
1.ชนิดของพืชที่ใช้
- มีอายุสั้นและตรงตามความต้องการของตลาด
- ผลผลิตได้ราคาดีเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ปลูก
2.ลักษณะพื้นที่
การปลูกพืชไร่หลังนาจำเป็นต้องอาศัยน้ำชลประทาน ดังนั้นจึงควรปรับพื้นที่ให้เรียบตั้งแต่ตอนทำนาและให้มีความลาดเทเล็กน้อย ควรมีร่องระบายน้ำจะช่วยไม่ให้น้ำขังในแปลง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตลดลงและเสียหาย
3.การเตรียมดิน
ในสภาพดินนาที่ค่อนข้างเป็นดินเหนียว การเตรียมดินต้องคำนึงถึงความชื้นที่เหมาะสม หากเตรียมดินในช่วงที่มีความชื้นมากเกินไปดินจะเป็นก้อนโต หากดินแห้งเกินไปจะเตรียมดินยากและไถได้ไม่ลึก
4.การให้ปุ๋ย
ในพื้นที่ทำนาต่อเนื่องมาตลอดจะมีการทับถมของตะกอนลำน้ำและปุ๋ยเคมีตกค้างจากการใส่ปุ๋ยเคมีในนาข้าว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยอีกในการปลูกพืชไร่บางชนิด แต่มีพืชบางชนิด เช่น ข้าวโพดฝักสด ซึ่งตอบสนองต่อปุ๋ยจึงควรให้ปุ๋ยโดยเฉพาะไนโตเจนให้เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิต
5.การจัดการวัชพืช
การปลูกพืชไร่หลังนาถ้ามีการให้น้ำ มักพบปัญหาเรื่องข้าววัชพืช ดังนั้นควรเก็บเกี่ยวข้าวในระยะพลับพลึง เพื่อป้องกันการร่วงหล่นของเมล็ดข้าวและใช้สารกำจัดวัชพืชตามความจำเป็น และเหมาะสม
6.การให้น้ำ
ให้น้ำตามความต้องการของพืช โดยเฉพาะในช่วงที่อุณหภูมิสูงไม่ควรปล่อยให้พืชขาดน้ำในระยะออกดอกและติดฝัก เพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก