ถั่วเขียว เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 65-70 วัน ใช้น้ำน้อยทนแล้ง นิยมใช้ในระบบปลูกพืช การปลูกถั่วเขียวในระบบปลูกพืช มีประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่
- ตัดวงจรการระบาดของศัตรูพืชในนาข้าว
- เป็นปุ๋ยพืชสด ช่วยเพิ่มธาตุอาหาร เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ปรับปรุงโครงสร้างดิน
- ลดรายจ่ายค่าปุ๋ยเคมีในการปลูกพืชครั้งต่อไป
- เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตถั่วเขียว
การปลูกถั่วเขียว
1. พื้นที่ปลูก
ถั่วเขียวสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ค่าความเป็นกรดด่างของดิน 5.5 -7.0 ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ควรมีร่องระบายน้ำ
2. ฤดูกาล
ปลูกได้ตลอดทั้งปี ฤดูฝนเริ่มปลูกกลางเดือนเมษายน-พฤษภาคม และปลายสิงหาคม-กันยายน ในฤดูแล้งเริ่มเดือนธันวาคม-มกราคม โดยปลูกได้ทันทีหลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแต่ต้องตรวจสอบความชื้นในดินด้วย
3. สภาพภูมิอากาศ
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต 25-35 องศาเซลเซียส ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในช่วงอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส เพราะถั่วเขียวจะชะงักการเจริญเติบโต
4. เมล็ดพันธุ์
พันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์ชัยนาท 84-1 ชัยนาท 72 กำแพงแสน 2 เป็นต้น เมล็ดพันธุ์ต้องมีความงอกไม่ต่ำกว่า 85 เปอร์เซ็นต์
การเตรียมดินและปลูก
ไถดินให้ลึก 20-30 เซนติเมตร แล้วพรวนดินและปรับดินให้สม่ำเสมอ ตัดร่องเพื่อระบายน้ำในกรณีปลูกแบบไม่ให้น้ำ ต้องอาศัยความชื้นในดินหลังเก็บเกี่ยวข้าว โดยปลูกแบบหว่านในอัตรา 5-6 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วพรวนดินกลบ กรณีปลูกเป็นแถว ใช้ระยะปลูกระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ระหว่างต้น 10 เซนติเมตร จำนวน 2 ต้นต่อหลุม
5. การใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 อัตรา 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านพร้อมการเตรียมดิน
6. การให้น้ำ
อย่าให้ถั่วเขียวขาดน้ำช่วงออกดอกติดฝักจะทำให้ผลผลิตลดลง
7. การป้องกันกำจัดวัชพืช
วัชพืชใบแคบ พ่นฟลูเอซิฟอบ-พี-บิวทิล(15% EC) 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตรหรือควิซาโลฟอบ-พี-เทฟิวริล (6% EC) 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หลังงอก พ่นคลุมไปบนต้นถั่วเขียวและวัชพืช ระยะที่วัชพืชส่วนใหญ่มีใบ 3-5 ใบ หรือประมาณ 15-20 วันหลังงอก
วัชพืชใบกว้าง พ่นหลังงอก พ่นโฟมีซาเฟน(25% EC) 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร คลุมไปบนต้นถั่วเขียวและวัชพืช ระยะที่วัชพืชส่วนใหญ่มีใบ 3-5 ใบ หรือประมาณ 15-20 วันหลังงอก ห้ามเกินอัตราที่กำหนด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อต้นถั่วเขียว
8. แมลงศัตรูที่สำคัญ
1) ระยะต้นกล้า
หนอนแมลงวันเจาะลำต้น ฉีดพ่นสารเคมีฆ่าแมลง เช่น ไตรอะโซฟอส 40% อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหลังจากถั่วเขียวงอกไม่เกิน 7-10 วัน และพ่นซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ห่างกัน 7 วัน
2) ระยะออกดอกและติดฝัก
เพลี้ยไฟ ใช้สารฆ่าแมลง คาร์โบฟูแรน 20% อีซีหรือโปรธิโอฟอส 50% อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการทำลายใบและดอกในระยะถั่วเขียวเจริญเติบโตจนถึงระยะติดฝักอ่อน พ่น 2-3 ครั้งห่างกัน 7-10 วัน
– หนอนเจาะฝัก ให้ฉีดพ่นด้วยสารฆ่าแมลง ไตรอะโซฟอส 40% อีซี (ฮอสตาไธออน 40 อีซี) อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร 1-2 ครั้งให้ห่างกัน 10 วัน
9. โรคที่สำคัญ
– โรครากและโคนเน่า คลุกเมล็ดพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารเคมีกำจัดเชื้อรา เช่น เมทาแลกซิล อัตรา 5 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม
– โรคราแป้ง ใช้พันธุ์ต้านทาน เช่น กำแพงแสน 2 หือชัยนาท 36 ใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา ได้แก่ เบโนมิล 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 15-20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อถั่วเขียวอายุ 30 วัน และพ่นซ้ำอีกทุก 10 วัน รวม 3 ครั้ง
10. การเก็บเกี่ยว
เก็บเกี่ยว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อถั่วเขียวถั่วเขียวมีฝักแก่ 80 เปอร์เซ็นต์ และครั้งที่ 2 หลังจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกประมาณ 14 วัน วิธีการเก็บเกี่ยวถั่วเขียวที่เหมาะสมสำหรับทำเมล็ดพันธุ์ คือ ใช้มือปลิดฝักแก่ที่เปลี่ยนเป็นสีดำ