เราทุกคนอยากมีสุขภาพที่ดี จึงมีการดูแลเอาใจใส่สุขภาพด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเกษตรกรท่านนี้นามว่าคุณแอน พรมศักดิ์ อดีตแม่ค้าขายข้าวมันไก่ได้ผันตัวมาปลูกผักอินทรีย์อย่างเต็มตัว โดยจุดเริ่มต้นคือเบื่อกับชีวิตที่เร่งรีบ ทำให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง และประกอบกับปัญหาด้านสุขภาพ จึงเริ่มลงมือปลูกผักอินทรีย์ในพื้นที่ที่จำกัด และศึกษาวิธีการปลูกผักอินทรีย์ด้วยตนเอง จนได้ผลผลิตกินเอง และเหลือพอที่จะจำหน่ายให้กับลูกค้าที่รักสุขภาพเช่นเดียวกับคุณแอน จนในปัจจุบันเกิดเป็นฟาร์มชื่อว่า “ เกษตรสุขกลางกรุง ณ ทุ่งบางเขน ”

โดยพื้นที่ในการปลูกผักสลัดทั้งหมดเพียง 3 งาน แต่คุณแอนสามารถบริหารพื้นที่การเพาะปลูกเพื่อให้ผลผลิตหมุนเวียนสู่ลูกค้าได้ตลอดทั้งปี คือแบ่งพื้นที่เป็น 4 โซนต่อเดือน และทำการปลูกผักสลัดสัปดาห์ละ 4 แปลง โดย 1 แปลงสามารถปลูกได้ 300 ต้นจนครบทั้งหมด 20 แปลง ก็จะสามารผลิตผักได้ทั้งหมด 6,000 ต้นจะเห็นได้ว่าหากทำการปลูกผักหมุนเวียนไปเรื่อยๆผลผลิตก็จะทยอยออกสู่มือลูกค้าได้ตรงตามความต้องการนั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีทริคเล็กๆสำหรับการขายผักจากคุณแอน คือ ก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต 1 สัปดาห์จะทำการแจ้งผ่านช่องทางไลน์ให้เพื่อให้ลูกค้าได้จับจองสินค้า หลังจากนั้นก็จะทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ เพื่อให้ผลผลิตยังมีความสดใหม่เมื่อถึงมือลูกค้า
ซึ่งนอกจากการบริหารพื้นที่เพาะปลูกและการตลาดแล้ว หัวใจหลักของฟาร์มแห่งนี้คือ “ ขั้นตอนการปลูกผักอินทรีย์ ” นั่นเอง หลังจากนี้เรามาดูกันว่ามีวิธีการดูแลเอาใจใส่อย่างไรให้ได้ผักที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสู่มือลูกค้า
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมดินและแปลงปลูก
- เตรียมวัสดุปลูกประกอบไปด้วย ดิน 1 ส่วน:ขี้วัว 1 ส่วน:แกลบ 1 ส่วน:ขุยมะพร้าว 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- โรยปูนขาวโดโลไมท์ เพื่อปรับปรุงแร่ธาตุในดินเป็นเวลา 1 เดือน
- ก่อนปลูกใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา และ บาซิลลัส ซับทิลิส (BS) เพื่อทำการกำจัดเชื้อราในวัสดุปลูก
ขั้นตอนที่ 2 การเพาะกล้า

- บรรจุพีทมอสลงในกระป๋องที่ทึบแสงและมีฝาปิด
- โรยเมล็ดผักลงบนพีทมอส หลังจากนั้นทำการรดน้ำแล้วปิดฝา นำไปเก็บในที่ทึบแสง
- เมื่อเพาะเมล็ดได้ประมาณ 3 วันให้ทำการเปิดฝาออกแล้วนำออกแดด 50%
- อายุกล้าครบ 5 วันให้ทำการย้ายต้นกล้าลงถาดหลุมเพาะกล้า และนำไปเก็บในโรงเรือนเพาะกล้า
- เมื่อต้นกล้าอายุได้ 17-18 วันให้ทำการย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก
ขั้นตอนที่ 3 การปลูกและการดูแลรักษา

- หลังจากย้ายลงแปลงปลูกได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ต้นกล้าจะเริ่มตั้งตัว ให้ทำการใช้น้ำหมักปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำหมักนมสด 2 ช้อนโต๊ะ ผสมในน้ำ 20 ลิตรฉีดพ่นวันเว้นวันหลังรดน้ำในช่วงเช้า (7 โมงเช้า)
- ช่วงเย็น(5 โมงเย็น)ให้ทำการไล่แมลงหลังจากการรดน้ำ โดยใช้สาร ชีวภัณฑ์ ยาสูบ หรือสะเดา โดยในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนให้ฉีดพ่นทุกวัน (* สลับสารเพื่อป้องกันการดื้อยา)
- การปลูกในฤดูร้อน ควรปิดม่านป้องกันแสงแดดในช่วงกลางวัน
- เฝ้าระวังการระบาดของเพลี้ยและหนอน
- การให้น้ำจะให้ช่วงเช้าก่อน 7 โมงเช้า และช่วงเย็นประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งทางฟาร์มจะมีการให้น้ำ 2 ระบบ คือแบบมินิสปริงเกอร์ และแบบการรดน้ำด้วยสายยาง
ขั้นตอนที่ 4 การเก็บเกี่ยวและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
- เมื่อผักอายุ 45 วันให้การเก็บเกี่ยวได้ โดยก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 สัปดาห์ให้เพิ่มปริมาณการให้น้ำ(4 รอบ/วัน) เพื่อป้องกันผักมีรสขม
- การพักดินสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
1.ดินใหม่ สามารถปลูกซ้ำได้ 3-4 รอบหลังจากนั้นพักดิน 1 เดือนโดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาราดที่วัสดุปลูกเพื่อป้องกันโรครากเน่า/โคนเน่า
2.ดินเก่า ที่ผ่านการปลูกมาหลายครั้งแล้วให้ใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มา และ บาซิลลัส ซับทิลิส (BS) ราดวัสดุปลูก เพื่อป้องกันเชื้อราในดินและพักดินประมาณ 1 เดือน
ซึ่งท้ายที่สุดคุณแอนยังกล่าวว่า “ไม่ต้องรอให้เก่งที่สุด แต่ก็สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ที่อยากเรียนหรือผู้ที่มาทีหลังได้เช่นกัน และประสบการณ์จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอ ” นั่นเอง และนี่เป็นเพียงเรื่องราวส่วนหนึ่งของ “ เกษตรสุขกลางกรุง ณ ทุ่งบางเขน ” หากท่านใดสนใจวิธีการเพาะปลูกผักสลัดชนิดต่างๆ สามารถเข้าไปรับชมคลิปวิดีโอสั้นๆ ได้ทาง “ Facebook : เกษตรสุขกลางกรุง ณ ทุ่งบางเขน ”