สูตรลับ วิธีการปลูกกระท่อม

 กระท่อมเป็นพืชยืนต้น บางต้นอายุเป็น 100 ปี พันธุ์พืชกระท่อม มีก้านเขียว และก้านแดง ก้านเขียวใบจะเล็กกว่า นิยมใช้เคี้ยวหรือหวนท่อมในวิถีชุมชนภาคใต้ รสชาติไม่ขมมากเคี้ยวมัน เป็นที่นิยมของคอท่อม ดังคำที่ว่า “ก้านแดงนั่งแหลงคนเดียว ก้านเขียวคนเดียวก็แหลง” ส่วนก้านแดงนิยมเอาไปต้มเป็นน้ำกระท่อม เพราะเมากว่าหรือไมทราไจนีน (Mitragynine) มากกว่านั่นเอง 

กระท่อมมีหลายสายพันธุ์ ในแต่ละพันธุ์มีความแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะลักษณะของใบ

 มี 3 สายพันธุ์ ดังนี้

1. กระท่อมพันธุ์ก้านแดง มีก้านและเส้นใบสีแดง มีรสชาติขมกว่ากระท่อมก้านเขียวและมีฤทธิ์ยาวนานกว่าประมาณ 30 นาที

2. กระท่อมพันธุ์ก้านเขียว (แตงกวา) มีเส้นใบสีเขียวอ่อนกว่าแผ่นใบ นิยมมากกว่าก้านแดง เพราะมีรสชาติที่ขมน้อยกว่าก้านแดง

3. ยักษ์ใหญ่ (หางกั้ง) มีใบขนาดใหญ่กว่าพันธุ์อื่นและส่วนบนของขอบใบเป็นหยัก

วิธีการปลูกกระท่อมด้วยเมล็ด

การปลูกกระท่อมด้วยเมล็ดที่ทำได้รวดเร็วและสะดวกที่สุดจะเป็นการปลูกระบบปิด โดยใช้อุปกรณ์ถุงพลาสติกหรือวัสดุ

ครอบพาชนะปลูกเพื่อควบคุมความชื้นสัมพัทธ์และลดการระเหยออกของน้ำ วิธีนี้จะช่วยให้เมล็ดกระท่อมเจริญเติบโตในระยะ

เวลาอันรวดเร็ว ประมาณ 5-7 วัน และไม่ต้องรดน้ำตลอดระยะเวลาดังกล่าว 

โดยมีขั้นตอนวิธีการปลูกดังนี้

1. นำดินปลูกหรือพีทมอสใส่ลงในกระบะหรือกะละมังประมาณครึ่งหนึ่งของพาชนะ

2. รดน้ำให้ดินชุ่มหรือเปียกอย่างเห็นได้ชัด

3. ค่อยๆ โรยเมล็ดกระท่อมลงไปอย่าให้ชิดกัน พยายามกระจายเมล็ดกระท่อมให้มากที่สุด

4. นำดินปลูกหรือพีทมอสมาโรยทับด้านบนบางๆ แล้วรดน้ำให้ชุ่มเปียกอีกครั้ง

5. หุ้มกระบะหรือกะละมังปลูกด้วยพลาสติกใสไม่ให้อากาศเข้าได้

6. ปิดทิ้งไว้ไม่ต้องรดน้ำ และวางไว้ในที่ร่มเป็นเวลาประมาณ 5-7 วัน

7. เมื่อครบกำหนดแล้วนำออกมารดน้ำเช้า-เย็น

8. เมื่อต้นกล้างอกขึ้นมาได้ระดับหนึ่งแล้วให้ย้ายไปปลูกในกระถางต่อไป

วิธีปักชำกระท่อม

การปลูกกระท่อมด้วยการปักชำเป็นการย่นระยะเวลาการเจริญเติบโต โดยเลือกกิ่งเดี่ยวไม่มีแขนงแยก นำมาปักชำและเร่งรากฝอยให้เจริญเติบโต แล้วนำไปปลูกต่อไป การปลูกกระท่อมด้วยวิธีนี้มีข้อเสีย คือระบบรากจะไม่แข็งแรงเท่าการปลูกกระท่อมด้วยเมล็ด ฉะนั้นในช่วงเวลา 1-2 ปี แรกควรมีการใช้ไม้ค้ำยันเอาไว้จนกว่ารากหรือลำต้นจะแข็งแรง โดยมีขั้นตอนวิธีการปลูกดังนี้

1. นำดินปลูกหรือพีทมอสผสมกับน้ำให้พอชุ่ม (แต่ไม่แฉะ) ใส่ในกระป๋องหรือแก้วพลาสติกเตรียมไว้ ตัดกิ่งกระท่อมจากต้น โดยเลือกกิ่งที่เป็นกิ่งเดี่ยวและสมบูรณ์ ควรตัดกิ่งให้มีขนาดไม่ยาวเกินไปเพื่อให้ธาตุอาหารลำเลียงได้เร็วขึ้น

2. ใช้น้ำยาเร่งราทาบริเวณโคนกิ่งแล้วทิ้งไว้แห้ง หรือ นำกิ่งไว้จุ่มแช่ไว้ประมาณ 20 นาที

3. นำกิ่งที่ทายาเร่งรากแล้วปักลงไปในดินที่เตรียมไว้ (หาไม้แทงดินลงไปก่อนปัก)

4. นำถุงพลาสติกใสมาครอบแล้วมัดให้แน่นเพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเท

5. ตั้งไว้ที่มีแสงแดด แต่ไม่จัดเกินไป

6. เมื่อรากเดินเต็มที่ให้นำไปปลูกลงดินต่อไป

เคล็ดลับ : หากใบกระท่อมจากกิ่งที่นำมาปักชำมีขนาดใบใหญ่เกินไป ให้ทำการตัดใบให้เหลือครึ่งหนึ่งเพื่อลดการคายน้ำและเพิ่มอัตรารอดในการปักชำ

การปลูกกระท่อม

1. ระยะการปลูกกระท่อม ปลูกระยะ 4×4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ 100 ต้น 

2. ดินและน้ำสำหรับปลูกกระท่อม ดินที่ใช้ปลูกกระท่อมควรเป็นดินร่วนซุย ควรมีน้ำอย่างทั่วถึงและปลูกกลางแจ้งเพื่อลดโรคเชื้อราจุดดำได้ (หรือเอาน้ำปูนขาวละลายรดหรือฉีด)

การเก็บเกี่ยวใบกระท่อม

ใบกระท่อมสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป โดยให้เก็บเฉพาะใบแก่ แต่ถ้าจะให้ผลผลิตเต็มที่ต้นกระท่อมควรมีอายุ 5 ปี จึงจะสามารถเก็บเกี่ยวใบกระท่อมได้ต้นละ 1 กิโลกรัมและสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 15 วัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนอนชอนใบอ้อย (แมลงดำหนามอ้อย) (Sugarcane hispid beetle) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhadinosa reticulate Baly วงศ์ : Hispidae รูปร่างลักษณะ : หนอนชอนใบอ้อย หรือ แมลงดำหนามอ้อย เป็นด้วงปีกแข็งมีขนาดเล็ก ตัวยาว 3-4 มิลลิเมตร มีสีดำ บนหลังและปีกมีหนามแข็งยาวแหลมอยู่ทั่วไป ตัวเมียวางไข่ใบเดี่ยว ๆ ไว้ใต้
เพลี้ยกระโดดท้องขาว หรือเพลี้ยกระโดดข้าวโพด (White-Bellied Planthopper, Corn Planthopper) โดยเพลี้ยกระโดดท้องขาวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบอ่อนและกาบใบ ทำให้ต้นข้าวโพดชะงักการเจริญเติบโต หากระบาดรุนแรงทำให้เกิดอาการใบไหม้ นอกจากนี้ยังขับถ่ายมูลหวาน ลงบนต้นพืชเป็นสาเหตุทำให้เกิดราดำ รูปร่างลักษณะ : ตัวเต็
ยิ่งเผา ยิ่งสร้างมลพิษ ทำลายโครงสร้างดิน ควรจัดการอย่างไรดี ?