การเลือกชนิดพืชปลูกให้เหมาะสมกับระดับความเค็มของดิน

การปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็มควรเลือกชนิดพืชให้เหมาะสม เนื่องจากพืชแต่ละชนิดทนเค็มได้ไม่เท่ากัน สำหรับการจัดการดินเค็มเพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจทนเค็ม ควรปรับปรุงบำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น แกลบดิบ ขี้เถ้าแกลบ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยพืชสด การให้น้ำควรให้แบบระบบน้ำหยด จะช่วยควบคุมความชื้นดินและความเค็มของดิน หลังปลูกต้องคลุมดินเพื่อรักษาความชื้น และป้องกันการสะสมของเกลือที่ผิวดิน ชนิดพืชที่สามารถปลูกได้ในระดับความเค็มต่างๆของดินดังนี้

1.  ดินเค็มน้อย พืชที่เจริญเติบโตได้ดี เช่น ถั่วฝักยาว คื่นฉ่าย มะเขือ แตงกวา แตงไทย กล้วย มะนาว ส้ม มะม่วง ถั่วเขียว ถั่วลิสง งา เป็นต้น

2.  ดินเค็มปานกลาง พืชเหมาะสมที่จะปลูกได้ เช่น ข้าว หอมแดง พริก ผักกาดหอม ข้าวโพดหวาน หอมใหญ่ น้ำเต้า บวบ บรอคโคลี่ แตงโม ชมพู่ แค และ ทับทิม เป็นต้น

3.  ดินเค็มมาก มีพืชทนเค็มเท่านั้นที่เจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ เช่น มะเขือเทศ ผักโขม ผักกาดหัว  แคนตาลูป ขี้เหล็ก กระถินณรงค์ ฝรั่ง ยูคาลิปตัส หญ้ากินนี เป็นต้น

4.  ดินเค็มจัด พืชทนเค็มจัดบางชนิดที่เจริญเติบโตได้ เช่น หน่อไม้ฝรั่ง คะน้า กะเพรา มะขาม มะพร้าว มะขามเทศ และ ละมุด

ระดับความเค็มของดินกับการตอบสนองของพืช

บทความที่เกี่ยวข้อง

9. ชุดดินท่าใหม่ (Tha Mai series : Ti) กลุ่มชุดดินที่ 27 การกำเนิด : เกิดจากการผุพังสลายตัวอยู่กับที่หรือเคลื่อนย้ายมาเป็นระยะทางไม่ไกลนักของหินบะซอลต์ บริเวณพื้นที่ที่เหลือค้างจากการกัดกร่อนของหินบะซอลต์ สภาพพื้นที่ : ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงลูกคลื่นลอนลาด มีความลาดชัน 2-12 % การระบายน้ำ
การทำนาเปียกสลับแห้ง เป็นเทคนิคการปลูกข้าวที่อาศัยการ ควบคุมระดับน้ำ ในแปลงนา โดยสลับระหว่างช่วงที่มีน้ำขังและช่วงที่ดินแห้ง ซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก ทำให้ต้นข้าวแข็งแรงและให้ผลผลิตที่สมบูรณ์
วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อผลผลิต และคุณภาพของผลผลิตข้าวในแต่ละฤดู ผลของการจัดการตลอดช่วงฤดูการปลูกข้าวจะมีผลต่อคุณภาพและผลผลิตข้าวในที่สุด ราคาของข้าวเปลือกจากการซื้อขายผลผลิตข้าว นอกจากจะมีการพิจารณาตั้งแต่ความชื้นของข้าวเปลือก ลักษณะของเมล็ดได้แก่ สีเปลือก ขนาดเมล็ด