หนอนชอนใบ…ศัตรูร้ายของเมล่อน

ถ้าหากเกษตรกรเลือกทำการเพาะปลูกเมล่อนในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ ให้เฝ้าระวังการระบาดของแมลงศัตรูพืชที่มีชื่อว่า “ หนอนชอนใบ ” ซึ่งเป็นศัตรูร้ายที่สร้างความเสียหายให้กับเมล่อนได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต

โดยลักษณะอาการเบื้องต้นที่สามารถพบเห็นได้ คือพบรอยเส้นสีขาวคดเคี้ยวไปมา ซึ่งเกิดจากตัวหนอนชอนไชอยู่ในใบพืช เมื่อนำใบพืชมาทำการส่องดูจะพบหนอนตัวเล็กๆ สีเหลืองอ่อนโปร่งใส่ อยู่ภายในเนื้อเยื่อพืช หากผู้ปลูกทำการป้องกันและควบคุมได้ไม่ทันเวลาจะส่งผลให้ใบเสียหายร่วงหล่น และส่งผลให้ผลผลิตของเมล่อนลดลง

ลักษณะการเข้าทำลายของหนอนชอนใบ

 สำหรับการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชชนิดนี้นั้นสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่แนะนำคือการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน (Integrated pest management , IPM) เป็นการใช้วิธีในการควบคุมแมลงศัตรูพืชหลายวิธีร่วมกัน เช่น

          วิธีเขตกรรม (Culture Control) และวิธีกายภาพ (Physical Control)  คือ การตัดแต่งกิ่งหรือใบ ที่ถูกหนอนชอนใบทำลายรุนแรง และเผาทำลายเศษใบพืชที่ถูกทำลายทันที เนื่องจากดักแด้ที่อยู่ตามเศษใบไม้จะถูกทำลายไปด้วย และสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดได้

          ชีววิธี (Biological Control)คือ ใช้จุลินทรีย์แบคทีเรียบีที (Bacillus thuringiensis)หรือเชื้อราเมตาไรเซียม ในการป้องกันกำจัด แต่ที่สำคัญสำหรับการใช้จุลินทรีย์และชีวภัณฑ์ ต้องให้ความชื้นกับพืชก่อนทุกครั้ง และหลักในการฉีดพ่นจุลินทรีย์และชีวภัณฑ์ คือ “ ช่วงที่แดดร่มลมตก ”  (เวลาบ่าย 2 โมงแต่ไม่ควรเกิน 4 โมงเย็น) 

และวิธีสุดท้ายที่แนะนำ คือ การใช้สารเคมี โดยใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ เบตา-ไซฟลูทริน 2.5% อีซี หรือฟิโพรนิล 5% เอสซี หรือไดโนทีฟูแรน 10% ดับเบิ้ลยูพี โดยใช้ในอัตราที่ฉลากระบุอย่างเคร่งครัด

ซึ่งวิธีป้องกันและกำจัดที่กล่าวมาข้างต้น ควรเลือกวิธีการต่างๆ ให้ถูกต้อง ถูกเวลา เหมาะสมกับสถานการณ์ และสภาพพื้นที่ เพื่อลดปริมาณศัตรูพืชในพื้นที่นั้น ลดความเสี่ยงต่อคน และรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

การปลูกเมล่อนในโรงเรือน เราจะพันต้นเมล่อนที่เชือกขึ้นตามแนวดิ่ง จุดสำคัญที่ต้องระวัง คือการแขวนผลเมล่อนที่ถูกต้อง เพราะหากดำเนินการผิดเมื่อผลเมล่อนมีน้ำหนักมากขึ้น จะทำให้ไปดึงให้กิ่งแขนงที่ติดอยู่กับลูกพับลงหรือฉีกขาดได้ สารอาหารที่จะไปเลี้ยงผลก็ส่งไปไม่สะดวก ผิวผลเมล่อนก็อาจจะไปถูกับลำต้น ทำให้ผิว
การปรับระดับดินนา โดยเครื่องจักรกลปรับระดับดินนาด้วยแสงเลเซอร์ (Laser land leveling) เครื่องจักรกลปรับระดับดินนาด้วยแสงเลเซอร์ มีการพัฒนามาแล้วกว่า 30 ปี ในการปรับระดับดิน เพื่อการจัดการน้ำให้กระจายทั่วถึงทั้งแปลงและระบายออก โดยเครื่องมือในการปรับระดับดินนาด้วยแสงเลเซอร์ มีองค์ประกอบหลัก คือ
ศูนย์การเรียนรู้อีกแห่งที่เราอยากแนะนำก็คือ ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ข้าว) ซึ่งอยู่ใกล้แค่จังหวัดสุพรรณบุรีนี่เอง ที่เกิดจากความตั้งใจของคุณสุกรรณ์ สังข์วรรณะ ที่นี่ได้เปิดพื้นที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรผสมผสานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้แก่เกษตรกรทั่วไปรวมถึง