ความลับของอาการผลแตกในเมล่อน

เมื่อ “เมล่อน” เข้าสู่ระยะติดผล มักจะเกิดอาการชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ผลแตก” ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตของเกษตรได้ภายในเวลาเพียงข้ามคืนเลยทีเดียว

แล้วทุกท่านสงสัยไหมว่า ผลแตกนั้นเกิดจากสาเหตุใด?

วันนี้เราได้หาคำตอบมาให้กับผู้อ่านทุกท่านแล้ว โดยปัจจัยหลักคือ การควบคุมปริมาณการให้น้ำในระยะที่เมล่อนเริ่มพัฒนาผลซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเพาะปลูกเมล่อน หากมีการให้น้ำในปริมาณที่มากเกินไป ควบคู่กับในช่วงฤดูปลูกเกิดการแปรปรวนของสภาพอากาศกะทันหัน ทำให้ความชื้นในแปลงปลูกและในอากาศมีสูง จะส่งผลให้เปลือกเมล่อนเริ่มเกิดอาการปริแตกและระเบิดในที่สุด

ดังนั้นวิธีป้องกันอาการผลแตกควรปฏิบัติอย่างไร?

วิธีที่ 1 สำหรับเมล่อนที่มีลวดลายให้ทำการสังเกตุที่บริเวณรอยแตกของลวดลายในช่วงที่เริ่มขยายผล หากพบว่าเปลือกเริ่มแสดงอาการปริแตกหรือบิรเวณรอยนูนของลวดลายมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ให้ทำการลดปริมาณน้ำทันทีจนบริเวณดังกล่าวไม่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 

วิธีที่ 2การฉีดพ่นอาหารเสริมหลังจากเมล่อนติดผล เนื่องจากในช่วงเมล่อนผิวเรียบผนังเซลล์ของผลเมล่อนยังบอบบางและไม่แข็งแรงทำให้เกิดอาการผลแตกได้ ดังนั้นหากทำการฉีดพ่นอาหารเสริมประเภทแคลเซียม และโบรอนในช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยให้ผนังเซลล์ของผลแข็งแรงขึ้นและลดการเกิดความเสียหายจากอาการผลแตกได้ โดยควรทำการฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน ในช่วงเวลาแดดไม่ร้อนจัด และควรงดการฉีดพ่นก่อนการเก็บเกี่ยว 1 สัปดาห์

และที่สำคัญ คือ หมั่นสังเกตุอาการผิดปกติในแปลงปลูก เนื่องจากเมื่อพบอาการผิดปกติต่างๆในระยะเริ่มต้นจะทำให้เราสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้ทันเวลา และลดการเกิดความเสียหายกับผลผลิตได้นั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

การเกษตรเป็นเรื่องของทัศนคติและมุมมองความคิด เราต้องมองตลาดให้ออกทั้งความต้องการและปริมาณที่จะขาย ถึงจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพ คุณสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เกษตรกรยุคใหม่ ทำการเกษตรแบบผสมผสานที่จะเป็นหนทางสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพชาวนาไทยตอนแรกคุณสุกรรณ์ ทำเกษตรอินทรีย์ที่กระแสกำลังมาแรงแบบสุดโต่ง ทำได้ 7 ปี
อุตสาหกรรมการเกษตรกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน (Climate Change) ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แรงงานสูงวัย และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เกษตรกรต้องพัฒนาศักยภาพในการทำการเกษตรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิตควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิต โดยใช้ทรัพยากร
ดินลูกรัง (Skeletal soils)หมายถึง ดินที่พบชั้นลูกรัง ชั้นกรวด ชั้นเศษหิน หรือชั้นหินพื้นในระดับตื้นกว่า 50 เซนติเมตร จากผิวดิน เนื้อดินบนเป็นดินทรายปนดินร่วนถึงดินร่วนปนทราย อาจพบกรวด หินมนเล็ก หรือเศษหินปะปน จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพืช ดินลูกรังเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ