ปลูกแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ

“การปลูกแฝก ช่วยเรื่องการชะล้างหน้าดิน ได้อย่างไร ?

การชะล้างหน้าดินไม่เพียงทำให้ดินถูกกัดเซาะ สารอาหารบริเวณหน้าดินยังถูกชะล้างลงบ่อไปด้วย

เกษตรกรสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ทั้งยังช่วยอนุรักษ์ดิน อนุรักษ์น้ำ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ด้วยการปลูกหญ้าแฝก ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้ง่าย ลงทุนไม่มาก แถมได้ผลดีมากอีกด้วย

หญ้าแฝกเติบโตได้ง่ายแม้ในดินที่มีธาตุอาหารน้อย  มีระบบรากที่แข็งแรงหยั่งลึกลงไปในดิน
ตามแนวดิ่ง

และมีรากฝอยแผ่ขยายจำนวนมาก จึงช่วยยึดเกาะโครงสร้างดินได้เป็นอย่างดี ทั้งยังทำให้ดิน
เกิดรูพรุน เสริมการระบายน้ำและอากาศ เข้าไปในโครงสร้างของเนื้อดิน

หญ้าแฝกสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในส่วนต่าง ๆ ตามลักษณะการปลูกดังนี้
แบบที่ 1 ปลูกหญ้าแฝกเป็นแนวตามริมขอบบ่อ ข้างคูส่งน้ำริมคูคลอง หรือร่องสวน
เพื่อป้องกันการพังทลายของขอบแหล่งน้ำนั้น

โดยปลูกในระยะระหว่างต้น 5 – 10 เซนติเมตร ระยะห่างแถวตามแนวดิ่งไม่เกิน 2 เมตร
หญ้าแฝกจะเจริญเติบโตแตกกอชิดกันภายใน 4 – 6 เดือน

แบบที่ 2 ปลูกหญ้าแฝกกั้นทางน้ำแบบบั้งกลับ จะช่วยชะลอการไหลของน้ำ

โดยใช้ต้นพันธุ์ 10 – 20 ต้นต่อเมตร เพื่อลดการชะล้างหน้าดิน และตะกอนดิน ไม่ให้ไหลลงไปทับถมในแหล่งน้ำ และช่วยกันโลหะหนักที่อาจปนเปื้อนมากับน้ำก่อนไหลลงสู่แหล่งน้ำขนาดใหญ่ได้

นอกจากประโยชน์ดังที่กล่าวมาแล้ว เกษตรกรยังสามารถปลูกแฝกล้อมรอบวงของไม้ใหญ่
ให้ได้ระยะรัศมี 2.5 เมตร

รากหญ้าแฝกจะเก็บความชื้นไว้ในดิน เก็บธาตุอาหารไม่ให้ไหลออกไปนอกวงปลูก

และเมื่อไม้ผลเจริญขึ้นมาคลุมพื้นที่ หญ้าแฝกก็จะตายไป กลายเป็นอินทรีย์วัตถุในดินต่อไป

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

การทำปุ๋ยหมักแบบพลิกกลับกองใช้เอง มีขั้นตอนยุ่งยาก ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงที่จะทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง แต่ความจริงแล้วยังมีวิธีทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกองเพื่อใช้เอง แบบที่มีคุณภาพดี และไม่ยุ่งยาก หาคำตอบได้ ที่บทความนี้
ขมิ้นชัน สุดยอดสมุนไพรอันดับ 1 ของประเทศไทย อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์มากมาย จนเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ โดยแหล่งเพาะปลูกขมิ้นชันที่ดีที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่บ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
รู้หรือไม่ว่าการทำนาด้วยวิธีการหว่านแห้ง หรือการหว่านน้ำตม ส่งผลให้เกษตรกรต้องเพิ่มต้นทุนการผลิต ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ และค่าจ้างแรงงาน เนื่องจากการหว่านจะทำให้ต้นข้าวแตกกอหนาแน่น ไม่เป็นระเบียบ จึงจัดการดูแลรักษายาก โดยเฉพาะการกำจัดวัชพืช มีโอกาสเกิดโรคและได้รับความเสียหายจากแมลงศัตรูพืช