ปลูกข้าวหอมมะลิ อย่างไรให้ได้ผลผลิต 700 กก./ไร่

ข้าวที่ดีที่สุดในโลกคือ ข้าวหอมมะลิ 105 ของไทยไม่มีใครกล้าปฏิเสธ แต่ผลผลิตที่เกษตรกรปลูกได้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 350-450 กก./ไร่ เท่านั้น แต่มีกลุ่มเกษตรกรบ้านช้างมิ่ง จ.สกลนคร ปลูกข้าวหอมมะลิได้ผลผลิตถึง 700 กก./ไร่ และยังได้ราคาสูงกว่าราคากลางถึง 20% เขามีวิธีการอย่างไรเรามาดูกัน

กลุ่มเกษตรกรบ้านช้างมิ่ง ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

โดยการศึกษาครั้งนี้ผู้ให้ข้อมูลคือคุณประศักดิ์ อุปการ ได้เล่าให้ฟังว่าทำอาชีพปลูกข้าวหอมมะลิ 105 และข้าวชัยนาท เป็นพันธุ์ขยายเพื่อส่งให้แก่ศูนย์ขยายพันธุ์ข้าวสกลนครมากว่า 20 ปีแล้ว แต่เมื่อก่อนผลผลิตที่ได้ไม่ดีนัก เพราะวิธีการยุ่งยากใช้แรงงานมากจนมีหลายคนต้องเลิกไป แต่ปัจจุบันกลุ่มของตนได้มีการจัดการที่ทันสมัยเข้ามาช่วยโดยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัย ทำให้ลดการสิ้นเปลืองแรงงาน ต้นทุน และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น โดยตอนนี้มีเกษตรกรในกลุ่มประมาณ 80 ราย และมีพื้นที่รวมกันประมาณ 1,000 ไร่ ผลผลิตข้าวเฉลี่ยไร่ละ 650 – 700 กิโลกรัม/ไร่ (ผลผลิตเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่ 350-450 กิโลกรัม/ไร่) และราคาขายจะสูงกว่าราคากลางประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะส่งขายตามโควต้าให้กับศูนย์ขยายพันธุ์ข้าวสกลนครเป็นพันธุ์เพาะปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เกษตรกรใช้เพาะปลูกต่อไปส่วนที่นอกเหนือโควต้าและจำหน่ายให้แก่โรงสีก็จะได้ราคาดีเพราะข้าวมีคุณภาพ ความบริสุทธิ์สูง

เคล็ดลับของความสำเร็จ  คือ ความใส่ใจในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมดิน การปักดำ ดูแลรักษา จนกระทั้งการเก็บเกี่ยว ทำให้ได้ผลผลิตมาก ทั้งปริมาณ และคุณภาพ

การเตรียมดิน
 ต้องมีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 3 – 5 ตัน/ไร่ แล้วทำการไถดะ 1 ครั้ง ตากดินทิ้งไว้ 7 – 14 วัน แล้วใช้จอบหมุนตีดินให้ละเอียดอีก 1 ครั้ง จากนั้นก็ทำการคราดให้พื้นที่นาสม่ำเสมอ เก็บวัชพืชออกจากแปลงนาให้หมด

การดำนา ใช้กล้าข้าวที่มีอายุ 18 – 20 วัน โดยปักดำด้วยระยะปลูก 25 x 30 เซนติเมตร โดยการดำนาจะมีผลดีคือ ดูแลรักษาง่าย ทั้งการกำจัดวัชพืช ข้าวดีด ข้าวเด้ง ข้าวปะปน และโรคแมลงต่างๆ

การดูแลรักษา ต้องมีการสำรวจแปลงทุกสัปดาห์ คอยกำจัดวัชพืช ข้าวดีด ข้าวเด้ง และข้าวพันธุ์ปะปนนอกสายพันธุ์ โดยสังเกตที่ลักษณะดังนี้ สีของต้นข้าว ออกรวงก่อน ออกรวงหลัง และสีเมล็ดข้าวแตกต่าง ต้องทำการถอนทิ้ง 

การใส่ปุ๋ย หลังจากการดำประมาณ 7 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร  46-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ และเมื่อข้าวมีอายุประมาณ 3 เดือน ช่วงก่อนออกใบธงหรือตั้งท้องให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 20 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อช่วยให้ข้าวออกรวงสม่ำเสมอกัน

การเก็บเกี่ยว ต้องทำความสะอาดรถเกี่ยวทั้งภายนอกรถและภายในตู้เกี่ยวนวดข้าว อย่าให้มีการปะปนของข้าวพันธุ์อื่น เพราะการเพาะพันธุ์ข้าวขยายนี้ต้องมีความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์สูงประมาณ 93 – 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หากมีข้าวพันธุ์อื่นปะปนเกินมาตรฐานศูนย์ขยายพันธุ์ข้าวจะไม่รับซื้อโดยการใช้รถเกี่ยว KUBOTA พบว่า ข้าวร่วงหล่นและเมล็ดแตกหักน้อย ประมาณ 10 – 15 กิโลกรัม/ไร่ (เมื่อเปรียบเทียบกับรถเกี่ยวขนาดใหญ่ทั่วไปจะร่วงหล่นและแตกหักประมาณ 50 – 60 กิโลกรัม/ไร่) ทำความสะอาดรถเกี่ยวง่ายใช้เวลาเพียง 1 – 2 ชั่วโมง และในกลุ่มก็ใช้รถเกี่ยวภายในชุมชนช่วยลดการปลอมปน อีกทั้งรถเกี่ยวมีน้ำหนักเบาจึงทำให้พื้นนาเสียหายน้อยด้วย

และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้องนำเมล็ดข้าวมาตากประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ ให้ความชื้นไม่เกิน 14 – 15 เปอร์เซ็นต์จึงนำส่งขายให้ศูนย์ขยายพันธุ์ข้าวต่อไป

การจัดการพื้นนาหลังการเก็บเกี่ยว เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วจะมีการไถกลบตอซัง เพื่อให้ฟางข้าวย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ย และทำการหว่านเมล็ดถั่วเหลืองตามลงไปเพื่อเป็นรายได้ในช่วงพักนา และยังเป็นการเพิ่มปริมาณปุ๋ยไนโตรเจนให้แก่ดินอีกด้วย

กลุ่มเกษตรกรบ้านช้างมิ่งสามัคคีเป็นอีกชุมชนที่มีการรวมกลุ่มพัฒนาการทำการเกษตรอย่างเป็นระบบ มองหาวิธีการที่ดีที่สุดอยู่เสมอ เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง โดยจุดมุ่งหมายต่อไปที่กลุ่มเกษตรกรจะร่วมกันทำคือ เพิ่มผลผลิตให้ได้ 1 ตัน/ไร่ และจะลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงเพื่อประหยัดต้นทุนหันมาทำข้าวอินทรีย์ โดยมีการรวมกลุ่มเพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อจำหน่าย และใช้กันเองในชุมชน

***ข้าวพันธุ์ขยายคือ ข้าวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์จากศูนย์วิจัยข้าวและได้ผ่านการรับรองแล้ว นำมาขยายเพิ่มปริมาณเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวต่อไป

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด (Corn borer : Ostrinia fumacalis Guenee) รูปร่างลักษณะ : หนอนเจาะลำต้นข้าวโพด เป็นแมลงศัตรูสำคัญที่สุดชนิดหนึ่งของข้าวโพด โดยเฉพาะในไร่ที่มีการปลูกข้าวโพดมานานปี หรือในแหล่งที่มีการใช้สารฆ่าแมลงมาก เพราะจะไปทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติ เช่น แตนเบียนไข่ ซึ่งเป็นตัวคอย
การเพาะปลูกพืชนั้นมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลายโดยแมลงศัตรูพืช ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่นิยม คือ สารกำจัดแมลง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สารกำจัดแมลงดีจริงหรือไม่ ควรใช้รึเปล่า หาคำตอบไปพร้อมกันได้ในบทความนี้กับ KAS
หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดเป็นศัตรูสำคัญของข้าวโพด นอกจากนี้ยังมีพืชอาหารมากกว่า 80 ชนิด เช่น ข้าว อ้อย ข้าวฟ่าง พืชตระกูลถั่ว มะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ ฝ้าย ทานตะวัน กล้วย กระเทียม ขิง มันเทศ พริก พืชตระกูลกะหล่ำ พืชตระกูลแตง และพืชผัก เป็นต้นวงจรชีวิตหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด ใช้เวลา 30-40 วัน