แอลฟาทอกซินในข้าวโพด

แอลฟาทอกซินในข้าวโพด


เชื้อสาเหตุ:
 เกิดจากเชื้อรา Aspergillus flavus

ลักษณะอาการ: เชื้อรา Aspergillus flavus จะสร้างกลุ่มของสปอร์สีเหลืองปนเขียว ซึ่งเห็นความแตกต่างได้จากโรคจากเชื้อราอื่น ๆ เมื่อทำการเก็บเกี่ยว

การแพร่ระบาด: เชื้อราตัวนี้สามารถเจริญบนไหมของฝักข้าวโพดและเจริญเข้าไปในฝักทำลายเมล็ดที่กำลังเติบโตได้ด้วยตัวของมันเอง แต่พบว่าการเข้าทำลายของเชื้อ A. flavus ในไร่ส่วนใหญ่มักเป็นผลต่อเนื่องมาจากการเข้าทำลายของแมลง โดยแมลงทำให้เกิดแผลเปิดทางให้เชื้อราเข้าทำลายง่ายขึ้น และทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อราด้วย เชื้อรานี้จะเข้าทำลายเมล็ดข้าวโพดได้ง่าย เมื่อเมล็ดข้าวโพดมีแผล เช่น แผลที่เกิดจากการเก็บเกี่ยว ขนย้าย ขนส่ง และระหว่างเก็บรักษา

นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อรา A. flavus สามารถเข้าทำลายเมล็ดข้าวโพดได้สูงในขบวนการสี อาจเนื่องมาจากเมื่อทำการสีข้าวโพดจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อที่ติดมากับฝักตั้งแต่แรก เนื่องจากเมล็ดแตกหักและเชื้อโรคเข้าทำลายได้ง่าย

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเกิดโรค: ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวโพดในเมืองไทยตรงกับช่วงฤดูฝน ประกอบกับข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวนั้นมีความชื้นค่อนข้างสูง 20-30% และบางครั้งสูงกว่า 30% ถ้าข้าวโพดเหล่านี้ได้รับบาดแผลเนื่องจากขบวนการเก็บเกี่ยว การสี หรือการตาก ย่อมจะเปิดทางให้เชื้อ A. flavus เข้าทำลายและเพิ่มปริมาณได้มาก

การป้องกันและกำจัด: ควรรีบทำให้ข้าวโพดเปียกแห้งลงโดยเร็วที่สุด เช่น การตากข้าวโพดบนลานตาก หรือโดยใช้เครื่องอบจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อ A. flavus ได้

บทความที่เกี่ยวข้อง

การใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (N) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการปลูกข้าวให้ได้คุณภาพดีและมีผลผลิตที่สม่ำเสมอ แต่ในดินที่มีการปลูกพืชมักจะขาดแคลนธาตุไนโตรเจน ทำให้เกษตรกรต้องใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในการทำนาทุกครั้ง ซึ่งในการใส่ปุ๋ย หากใส่มากเกินไป อาจทำให้ข้าวเกิดโรคและหักล้มง่าย หากใส่น้อยเกินไป อาจทำให้ได้ผลผลิตต่
เกิดจากเชื้อรา Cercosporidium ingsii พบครั้งแรกในประเทศซาเนีย สำหรับในประเทศไทยพบว่ามันสำปะหลังเกือบทุกสายพันธุ์เป็นโรคใบจุดสีน้ำตาล ความรุนแรงขึ้นอยู่กับอายุพืชและสภาพแวดล้อม และสามารถพบโรคในแหล่งที่มีความชื้นต่ำและแห้งแล้งได้
เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยต่างทราบกันดีว่าหากเกิดภัยแล้ง จะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตของอ้อยเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกษตรกรหลายรายพยายามหาวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาอ้อยขาดน้ำ โดยมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นในการปลูกอ้อย เช่น การใช้แทรกเตอร์พ่วงด้วยแทงค์น้ำทำการรดน้ำหลังการเพาะปลูกอ้อย