หนอนเจาะฝักข้าวโพด

ชื่ออื่น : หนอนเจาะสมอฝ้าย American cotton bollworm

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Heliothis armigera (Hübner)

วงศ์ : Noctuidae

อันดับ : Lepidoptera

หนอนเจาะฝักข้าวโพด :

เป็นศัตรูที่ทำให้ข้าวโพดเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะข้าวโพดหวาน  ซึ่งมีความอ่อนแอต่อแมลงศัตรูพืช การทำลายจะกัดกินไหมข้าวโพดและเจาะทำลายที่ปลายฝักข้าวโพด เป็นสาเหตุให้พืชได้รับความเสียหาย และเสียราคา มักพบหนอนเจาะฝักข้าวโพด เมื่อข้าวโพดเริ่มออกดอก ระยะนี้หนอนจะเกาะกินอยู่ที่ช่อดอก และเมื่อข้าวโพดออกฝักมักพบตัวหนอนกัดกินที่เส้นไหมของ  ฝักอ่อน แล้วจะกัดกินบริเวณปลายฝักต่อไป 

รูปร่างลักษณะ :

การทำลายพืชจะเกิดขึ้นในระยะตัวหนอน สำหรับตัวเต็มวัยจะเป็นผีเสื้อกลางคืน จะวางไข่เท่านั้น และเป็นชนิดเดียวกับหนอนเจาะสมอฝ้าย ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า หนอนเจาะสมอฝ้ายอเมริกัน 

ลักษณะตัวหนอน :

ลำตัวของตัวหนอน จะมีขนขึ้นประปราย ลายพาดยาวบริเวณลำตัวซึ่งเห็นได้ชัดเจน ตัวหนอนมีสีเหลือง สีเขียวอ่อน ไปจนถึงสีค่อนข้างดำ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม อายุ และการลอกคราบ ในระยะตัวหนอนมักจะอยู่รวมกัน แต่เมื่อโตขึ้นจะไม่อยู่ใกล้กันเพราะจะกัดกินกันเอง ขนาดของหนอนโตเต็มที่ จะมีความยาว 35 – 40 มม. กว้าง 3 มม. มีสีแตกต่างกันหลายสี เช่น เหลือง น้ำตาล ชมพู ขาวนวล เขียว ดำและเทา เป็นต้น และมีแถบสีดำใหญ่ขนาด 0.5 – 1.0 มม. พาดตามความยาวด้านข้างๆละเส้น รูหายใจรูปวงแหวนสีดำอยู่ด้านข้างทั้ง 2 ข้างของทุกปล้อง ส่วนหัวมีสีเหลืองน้ำตาล โดย หนอนจะเข้าดักแด้ในตอนกลางคืน เมื่อเข้าดักแด้ใหม่จะมีสีเขียว ตัวนิ่มแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลือง น้ำตาล ผิวแข็งแรงขึ้นและเป็นสีน้ำตาลก่อนจะออกเป็นตัวเต็มวัย โดยตัวเต็มวัยหรือผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ตามซอกใบ จะออกหากินในเวลาพลบค่ำ

ผีเสื้อจะวางไข่ในที่มืดหรือเวลากลางคืน :

การวางไข่ใบเดี่ยวๆตามใบพืช ส่วนมากพบตามไหมข้าวโพดและตามยอดพืช ไข่มีสีเหลืองนวล หรือ เหลืองครีม เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 0.5 – 0.6 มม. ค่อนข้างกลมคล้ายฝาชี มีริ้วหยักจากยอดสู่ด้านที่ติดใบพืช ก่อนจะฟักเป็นตัวหนอน ไข่จะเปลี่ยนเป็น  สีเข้มขึ้นโดยตัวแม่ผีเสื้อวางไข่ได้เฉลี่ย 1,100 ฟอง 

ชีพจักรของหนอนเจาะฝักข้าวโพด ดังนี้

การแพร่กระจายและฤดูกาลระบาด :

จะพบแมลงชนิดนี้อยู่ทั่วไปที่มีการปลูกฝ้าย ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ยาสูบ มะเขือเทศ และถั่วต่างๆ เพราะเป็นแมลงที่สามารถกินอาหารได้หลายอย่าง และมักจะระบาดในฤดูที่มีการปลูกฝ้าย โดยเฉพาะตอนออกสมอ สำหรับข้าวโพดนั้นจะมีการระบาดจำนวนมากในระยะที่ข้าวโพดเริ่มออกฝักหรือออกฝักแล้ว ระยะที่ทำอันตรายข้าวโพดได้มากคือระยะที่ฝักอ่อน

ศัตรูธรรมชาติ :

ในธรรมชาติจะมีแมลงศัตรูที่คอยทำลายไข่ของหนอนเจาะฝักข้าวโพด คือ

  1. แตนเบียนไข่ Trichogramma chilotreaeT.chilonisT.australicum
  2. แมลงวันก้นขน (tachinid fly)
  3. แตนเบียนหนอน (Braconid)
  4. แมลงช้างปีกใส (Green Lacewing)

การป้องกันกำจัด :

ตัวหนอนชนิดนี้จะเข้าทำลายในระยะที่ข้าวโพดออกดอกแล้ว โดยอาศัยกัดกินที่ช่อดอกตัวผู้ และเส้นไหมของฝัก จึงควรหมั่นตรวจสอบดูว่ามีหนอนเกิดขึ้นหรือยัง หากพบหนอน 1 ตัวต่อต้น  ในข้าวโพดจำเป็นต้องป้องกันกำจัด วิธีที่ดีที่สุดคือการจับหนอนทิ้ง หากจำเป็นต้องพ่นสารฆ่าแมลงควรใช้ในระยะหนอนยังเล็กอยู่จึงจะได้ผลดี โดยใช้สารฆ่าแมลง ดังนี้

  • Fipronil (Ascend 5%SC) อัตรา 20 มล./น้ำ 20ลิตร
  • Biferthin (Talstar 10% EC) อัตรา 30 มล./น้ำ 20ลิตร
  • Flufenoxuron (Cascade 5% EC) อัตรา 20 มล./น้ำ 20ลิตร
  • Methomyl (Lannate 90% WP) อัตรา 11 กรัม/น้ำ 20ลิตร
  • Monocrotophos (Azodrin 56% EC) อัตรา 18 มล./น้ำ 20 ลิตร

บทความที่เกี่ยวข้อง

โรคใบไหม้แผลเล็ก (Southern Corn Maydis Leaf Blight) การระบาดของโรคนี้ในประเทศไทยมีเสมอทุกปีและระบาดเพิ่มมากขึ้นในหลายพื้นที่จนถึงปัจจุบัน โดยมีความรุนแรงกับข้าวโพดสายพันธุ์แท้ (Inbred line) บางสายพันธุ์ ข้าวโพดหวานข้าวโพดเทียน ข้าวโพดข้าวเหนียว เป็นต้น ลักษณะอาการ ระยะแรกจะเกิดจุดเล็ก ๆ สีเขียวอ่อน
เชื้อสาเหตุ : Erwinia carotovora แบคทีเรีย อาการ : ในระยะแรกอ้อยจะแห้งตายเป็นบางหน่อ ระยะหลังลำอ้อยบริเวณคอเน่าจนคอหักพับ มีกลิ่นเหม็นเน่า เนื้อในอ้อยยุบเป็นโพรงเห็นเนื้อเป็นเส้น วิธีการแพร่ระบาด : ติดไปกับท่อนพันธุ์ ลมและฝนพัดพาเชื้อจากต้นที่เป็นโรคไปติดต้นข้างเคียง วิธีการป้องกันรักษา : พบกอเป็น
เกษตรกรรายย่อย ปลูกอ้อยอย่างไรให้กำไรงาม ชาวไร่อ้อยที่มีการบริหารจัดการไร่อ้อย แบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นางอุทัย สุขศรีพะเนาว์ ได้รับรางวัลดีเด่น ชาวไร่อ้อยที่มีการบริการจัดการไร่อ้อยที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีเด่น (ประเภทรายเล็ก พื้นที่ปลูกอ้อย 56 ไร่) ทำการเพาะปลูกอ้อยมากว่า 24 ปี