ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์ชัยนาท 84-1

ประวัติ

ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์ชัยนาท 84-1 ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ในระหว่างปี พ.ศ.2544-2551 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท เพื่อให้ได้ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมที่มีผลผลิตสูง และมีความเหนียวนุ่ม เกิดจากการผสมระหว่างสายพันธุ์แท้ F4305 กับสายพันธุ์แท้ M80 ผ่านการประเมินผลผลิตพันธุ์ลูกผสมตามขั้นตอนของกรมวิชาการเกษตร จากการพัฒนาพันธุ์ดังกล่าวได้ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมสายพันธุ์ดีเด่น และได้รับการพิจารณาให้เป็นพันธุ์รับรองในปี 2554 โดยใช้ชื่อ “ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมพันธุ์ชัยนาท 84-1”

ลักษณะเด่น

ผลผลิตทั้งเปลือกเฉลี่ย 1,731 กิโลกรัมต่อไร่ มีคุณภาพการบริโภคเหนียวนุ่ม ปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อม

ลักษณะประจำพันธุ์

  รากค้ำจุน ลำต้น และเปลือกหุ้มฝัก มีสีเขียวปนม่วงแดง เส้นไหมสีชมพู ไม่มีหูใบ วันออกดอก 50 เปอร์เซ็นต์ 41-42 วัน วันออกไหม 50 เปอร์เซ็นต์ 42-43 วัน เมล็ดสีขาว อายุเก็บเกี่ยว 60-62 วัน ขนาดฝัก (กว้าง x ยาว) 4.5 x 17.9 เซนติเมตร จำนวนแถว 12-14 แถว ความสูงต้น 202 เซนติเมตร ความสูงฝัก 112 เซนติเมตร

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในพื้นที่ที่สามารถให้น้ำชลประทานได้ตลอดฤดูปลูก

ข้อควรระวัง

เป็นพันธุ์ที่ไม่ต้านทานต่อโรคราน้ำค้าง และโรคทางใบที่สำคัญ เช่น โรคใบไหม้แผลใหญ่ โรคใบด่างจากเชื้อไวรัส หากมีการระบาดควรป้องกันกำจัดตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทุกวันนี้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังเผชิญกับต้นทุนการเพาะปลูกที่สูง เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากค่าพันธุ์อ้อย ค่าจ้างแรงงานในการปลูกและใส่ปุ๋ย ดังนั้น สยามคูโบต้าจึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยแบบร่องกว้าง เพื่อสามารถใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเข้าไปดูแลไร่อ้อยได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต ซึ่งนอกจาก
เนื่องจากมีความเชื่อผิดๆในการใส่ปุ๋ย: “ยิ่งใส่ปุ๋ย ยิ่งให้ผลผลิตมาก” การใช้ปุ๋ยเกินความจำเป็น โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจน นอกจากสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายแล้ว ยังทำให้ต้นข้าวอวบน้ำ ล้มง่าย แมลงสามารถเข้าทําลายได้ง่าย ส่วนปุ๋ยส่วนเกินจะปนเปื้อนแหล่งน้ำใต้ดินและไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง แต่ถ้าใส่ปุ๋ยไม่เพียงพอ