การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง

การเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง 

นอกเหนือจากการปรับปรุงบำรุงดิน ร่วมกับการอนุรักษ์ดิน และการใช้พันธุ์มันสำปะหลังพันธุ์ดีแล้ว การจัดการดูแลที่ดีโดยเริ่มตั้งแต่ ฤดูกาลปลูกที่เหมาะสม การเตรียมดินดี การเตรียมท่อนพันธุ์ปลูกระยะปลูกที่เหมาะสม ตลอดจนการใช้ปุ๋เคมีในอัตราที่เหมาะสม การกำจัดวัชพืชเป็นปัจจัยที่จะทำให้ผลผลิตสูงขึ้น โดยเฉพาะการเอาใจใส่ในการเตรียมท่อนพันธุ์จะมีผลทำให้อัตราความอยู่รอดของมันสำปะหลังสูงขึ้น

ต้องคัดเลือกใช้ต้นพันธ์ุ (ท่อนพันธุ์) สมบูรณ์

นับเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอันดับแรก เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการอื่นๆ เนื่องจากมีผลต่อความงอกและต้นอยู่รอดจนกระทั่งเก็บเกี่ยว ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับผลผลิต รวมทั้งต้นทุนการผลิตของเกษตรกร ซึ่งมีเทคนิคดังนี้

ข้อแนะนำ

1.ต้องใช้ต้นพันธุ์ที่มีอายุ 8-14 เดือน  

โดยสังเกตได้จากสีของลำต้นที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นสีเข้มเมื่ออายุมากขึ้น และไม่มีโรคแมลงติดมา

2.ต้องเก็บรักษาต้นพันธุ์ให้ดี

หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วควรรีบนำต้นพันธุ์ไปปลูกทันที ถ้าจำเป็นต้องเก็บรักษาต้นไว้ทำพันธุ์ต่อไป สามารถทำได้โดยตั้งกองพันธุ์ไว้กลางแจ้งในแนวตั้งให้ส่วนของโคนสัมผัสกับพื้นดิน หรือใช้ดินกลบโคนแบะกองไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อให้อากาศถ่ายเท ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะสามารถรักษาสภาพต้นได้ประมาณ 15-30 วัน หรือนานถึง 2 เดือน แต่ถ้าเก็บไว้นานต้นจะแห้งจากส่วนปลายลงมา และตาจะแตกทำให้ได้จำนวนท่อนที่สมบูรณ์น้อยลง

3.ต้องใช้ส่วนกลางของลำต้น

ควรเป็นส่วนกลางและโคนต้นที่ไม่อ่อน หรือแก่จนเกินไป

4.ต้องคัดท่อนที่มีความยาวที่เหมาะสม

ในช่วงต้นฤดูฝนควรใช้ท่อนพันธุ์ขนาด 20 ซม. และช่วงปลายฝนควรใช้ท่อนพันธุ์ขนาด 25-30 ซม. (ควรมีตาอย่างน้อยประมาณ 5-7 ตา) ส่วนการสับท่อนพันธุ์ควรสับให้เฉียงเล็กน้อย และหลีกเลี่ยงไม่ให้ตาบนท่อนพันธุ์ช้ำ หรือถูกกระทบกระเทือน

5.วิธีการปลูกที่เหมาะสม

ควรปลูกแบบปักตรงหรือเอียงเล็กน้อย เป็นวิธีที่ให้ผลผลิตสูง ควรลึกในการปักท่อนพันธุ์ลงในดินประมาณ 8-10 ซม. แต่ไม่ควรปักลึกมาก และควรมีการตรวจสอบความงอกหลังปลูกเพื่อทำการปลูกซ่อมได้ทันเวลา

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนของต้นที่อ่อน หรือแก่เกินไป ส่วนของกิ่งแขนง และไม่ควรตัดต่อท่อนพันธุ์สั้นเกินไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เกษตรทฤษฎีใหม่ แนวคิดการเกษตรตามรอยพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่จะช่วยให้เกษตรกรไทยทำงานน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์มากขึ้น พออยู่ พอกิน ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งบทความนี้ KAS (KUBOTA (Agri) Solutions) จะมาอธิบายเกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ว่าคืออะไร ต้องทำแบบไหน มีข้อดีอย่างไร จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
แตนเบียน (Anagyrus lopezi) มีถิ่นกำเนิดในทวีปแถบอเมริกาใต้ ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวห้ำและตัวเบียน สามารถฆ่า (การห้ำ) เพลี้ยแป้งสีชมพูให้ตายได้ทันที เฉลี่ยวันละ 20-30 ตัว และวางไข่ (การเบียน) ในตัวเพลี้ยแป้งสีชมพู เฉลี่ยวันละ 15-20 ตัว แตนเบียนหนึ่งตัวสามารถฆ่าเพลี้ยแป้งสีชมพูได้เฉลี่ยวันละ 35-50 ตัว