โรคแส้ดํา (Smut disease)

สาเหตุ : เกิดจากเชื้อรา Ustilago scitaminea

การระบาด

1.  การระบาดเป็นไปอย่างกว้างขวางโดยทางท่อนพันธุ์จากกอที่เป็นโรค

2.  เชื้ออยู่ในดินและสามารถเข้าทําลายอ้อยที่ปลูกใหม่ได้

3.  เชื้อสามารถแพร่กระจายได้โดยลมและเข้าทําลายพันธุ์ที่อ่อนแอได้

ลักษณะอาการ

อ้อยจะแตกยอดออกมาเป็นแส้สีดําแทนยอดปกติ ต้นแคระแกรนผอม ข้อสั้นใบเล็กแตกกอจัด เมื่อเป็นรุนแรงอ้อยจะแห้งตาย ผลผลิตลดลงเกินกว่า 10 %

การป้องกันและการกําจัด

1.  เลือกใช้พันธุ์ต้านทานเช่น อู่ทอง1 อู่ทอง2 อู่ทอง3 อู่ทอง4

2.  ไม่ควรใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีโรคระบาด

3.  ในพื้นที่มีการระบาด ถ้าเลือกใช้พันธุ์ที่ไม่ทราบข้อมูลความต้านทาน ควรแช่ท่อนพันธุ์ ในสารเคมีเช่นไตรอะไดมีฟอน (ไบลีตัน 25% WP) โปรปิโคนาโซล (ทิลท์เดสเมล) อัตรา 48 กรัมต่อน้ำ 20  ลิตร นาน 30 นาทีก่อนปลูก

บทความที่เกี่ยวข้อง

จอกหูหนูยักษ์ สิ่งที่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช เป็นเฟิร์นน้ำต่างถิ่นที่ลอยน้ำอย่างอิสระ ไม่ยึดเกาะกับดิน ลำต้นทอดยาวอยู่ใกล้ผิวน้ำ แต่ละข้อมีใบ 1 คู่ อยู่เหนือผิวน้ำ เมื่อเล็กมีรูปร่างกลม แบน ลอยปิ่มน้ำ เมื่อโตเต็มพื้นที่ใบทั้งคู่จะยกตัวขึ้นปลายใบแยกออกจากกัน ผิวใบด้านบนปกคลุมด้วยขนแข็ง
ปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ คือการดำรงไว้ซึ่งความมีชีวิตของเมล็ดพันธุ์ (seed) ให้ยาวนานออกไป ฉะนั้นในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์จึงมีปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหลายประการ แต่โดยทั่วไปอาจสรุปได้ 2 ประการ คือ 1.ปัจจัยภายใน 1.1 ชนิดของเมล็ดพันธุ์(species)
หนอนกระทู้หอม (Beet armyworm : Spodoptera exigua Hubner) รูปร่างลักษณะ : หนอนกระทู้หอมหรือหนอนหลอดหอม เป็นศัตรูสำคัญของข้าวโพดในระยะ 7-30 วัน กัดกินใบและต้นทำให้เกิดความเสียหายมาก ถ้าปล่อยให้เข้าทำลายโดยไม่มีการป้องกันกำจัด ข้าวโพดจะตายในที่สุด หนอนกระทู้หอมตัวเต็มวัย