โรครากหรือหัวเน่า

โรครากและหัวเน่าเป็นโรคที่มีความสำคัญมาก ทำให้ผลผลิตสูญเสียโดยตรง โดยเฉพาะในแหล่งที่ดินระบายน้ำได้ยาก ฝนตกชุกเกินไปหรือในพื้นที่ที่เคยปลูกกาแฟ ยาง หรือเป็นป่าไม้มาแล้ว

ในบางครั้งสามารถพบได้ในแหล่งที่ดินมีการชะล้างสูง โรคนี้สามารถเกิดได้ทั้งระยะต้นกล้า และระยะที่ลงหัวแล้ว โรครากและหัวเน่าเกิดจากเชื้อราสาเหตุหลายชนิด พบว่า สาเหตุของโรครากเน่ามีเชื้อรา 36 ชนิด บักเตรี 4 ชนิด และ Phytomonas 1 ชนิด ทำให้ยากแก่การวินิจฉัย สำหรับเชื้อราสาเหตุที่สำคัญ คือ เชื้อราในสกุล Fusarium spp. Diplodia spp. Phytophthora sppโดยเฉพาะอย่างยิ่งP. drechsleri และ Pythium spp. ในประเทศไทย เท่าที่สำรวจพบมีอยู่ 3 ชนิด คือ

โรคหัวเน่าและ (Phytophthora Root Rot หรือ Wet Rot)

เชือสาเหตุ Phytophtora drechsleri เชื้อโรคนี้จะเกิดกับมันสำปะหลังทั้งในระยะกล้าและลง

หัวแล้ว มักจะพบในบริเวณที่ดินมีระบบระบายน้ำยาก และอยู่ใกล้กับทางน้ำหรือคลอง โรคนี้อาจความเสียหายถึง 80 เปอร์เซ็นต

ลักษณะอาการ ถ้าเกิดกับต้นยังเล็กอยู่จะทำให้รากเป็นรอยชําสีน้ำตาลและเน่ า ต้นจะเหี่ยวเฉา

ถ้าเกิดกับหัวจะทำให้หัวเน่าอย่างรวดเร็ว และมีกลิ่นเหม็น ใบเหี่ยวแล้วร่วง ถ้าเกิดรุนแรงต้นจะตายมีรายงานในอัฟริกาและอเมริกาใต้ว่า โรคนี้เกิดจากเชื้อรา Phytophthora ชนิดอื่น ๆ อีกคือ  P.erythoseptica และ P. cryptogea

บทความที่เกี่ยวข้อง

การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตดี ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ เหมือนกับชื่อ ต้องอาศัยความรู้ และความเข้าใจในขั้นตอน ในบทความนี้ KAS (KUBOTA (Agri) Solutions) จะมาแชร์เทคนิคการปลูกกล้วยให้ลูกดก หวีเยอะ เครือใหญ่ แถมรสชาติหวาน ไปดูกันเลย
รู้หรือไม่ว่าการทำนาด้วยวิธีการหว่านแห้ง หรือการหว่านน้ำตม ส่งผลให้เกษตรกรต้องเพิ่มต้นทุนการผลิต ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ และค่าจ้างแรงงาน เนื่องจากการหว่านจะทำให้ต้นข้าวแตกกอหนาแน่น ไม่เป็นระเบียบ จึงจัดการดูแลรักษายาก โดยเฉพาะการกำจัดวัชพืช มีโอกาสเกิดโรคและได้รับความเสียหายจากแมลงศัตรูพืช
ระบบจัดการน้ำที่ดีเป็นอย่างไร จะช่วยแบ่งเบาภาระการรดน้ำในแปลงอ้อยหลายร้อยไร่ได้ขนาดไหน บทความนี้มีคำตอบ