เลิกเผา ได้ดินดีกลับมา ข้าวงอกงาม แถมรายได้เพิ่ม

เลิกเผา ได้ดินดีกลับมา ข้าวงอกงาม
แถมรายได้เพิ่ม

ยิ่งเผา ยิ่งสร้างมลพิษ ทำลายโครงสร้างดิน ควรจัดการอย่างไรดี ?

การเผาฟางข้าวหลังเก็บเกี่ยว ไม่เพียงสร้างมลพิษทางอากาศ PM 2.5 แต่ยังทำลายจุลินทรีย์
ที่มีประโยชน์และธาตุอาหารในดิน ทำให้โครงสร้างดินเสียหาย ส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนค่าปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นในการเพาะปลูกรอบถัดไปโดยไม่รู้ตัว

เกษตรกรสามารถจัดการกับฟางข้าวและตอซังที่เหลือทิ้งไว้ในนาโดยไม่ต้องเผา ด้วยการใช้
เครื่องอัดฟางเก็บเกี่ยวฟางข้าวได้อย่างสะดวกง่ายดาย ทั้งยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรอย่างไม่น่าเชื่อ

รถอัดฟางตราช้าง รุ่น HB135  สามารถอัดฟางข้าวน้ำหนัก 17-20 กิโลกรัมต่อก้อน อัดฟางได้ไร่ละ 20-25 ก้อน เพิ่มรายได้ถึง 500-750 บาทต่อไร่

หมายเหตุ : ราคาฟางก้อนละ 25-40 บาท

นอกจากนั้น ยังมีวิธีทำให้ฟางข้าวและตอซังเหล่านี้มีประโยชน์มากขึ้น ด้วยการพ่นน้ำหมักและไถกลบด้วยเครื่องพ่นอเนกประสงค์ตราช้าง รุ่น BS350 ซึ่งช่วยให้เกิดกระบวนการย่อยสลายได้เร็วขึ้นจากเดิมใช้เวลา 30 วันเหลือเพียง 15 วัน ดินในนาจะมีความร่วนซุยและมีธาตุอาหาร
เพิ่มขึ้น ช่วยให้เกษตรกรประหยัดต้นทุนค่าปุ๋ยไปได้ถึงไร่ละ 400 บาท* เลยทีเดียว

หมายเหตุ : ราคาข้างต้นคำนวณจากการทดสอบในแปลงตัวอย่างเท่านั้น ราคาจริงอาจมีการ
ผันผวนตามแต่ละพื้นที่

เกษตรชีวิตดีที่ใครก็เริ่มได้ เริ่มต้นเกษตรชีวิตดีกับคูโบต้า

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันนี้การทำการเกษตรปลูกพืชด้วยวิถีอินทรีย์กำลังมาแรง และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ เพราะราคาพืชผักผลไม้ที่ปลูกด้วยระบบอินทรีย์มีราคาสูงกว่าพืชที่ใช้สารเคมีเกือบเท่าตัว และยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคที่รักชีวิตตนเอง และครอบครัวด้วย เกษตรกรหลายท่านที่ยังคงใช้สารเคมีเพราะคิดว่าการ
ชีวภัณฑ์ มิตรคู่เกษตรกร ผู้ปกป้องพืชผักจากศัตรูพืช วิธีการเกษตรที่ประยุกต์ใช้ทฤษฎีห่วงโซ่อาหารเข้ากับเกษตรกรรมอย่างลงตัว อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในยุคที่การใช้สารเคมีไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้บริโภค เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งชีวภัณฑ์คืออะไร ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจริงหรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความนี้กับ KUBOTA