เปิดโลกการปลูกขมิ้นชันด้วยเครื่องจักรกลการเกษตร ณ บ้านเขานาใน

ขมิ้นชัน สุดยอดสมุนไพรอันดับ 1 ของประเทศไทย อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์มากมาย จนเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ โดยแหล่งเพาะปลูกขมิ้นชันที่ดีที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่บ้านเขานาใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในปัจจุบันกำลังประสบวิกฤติขาดแคลนแรงงาน ทำให้การปลูกขมิ้นชัน ไม่ทันต่อความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แถมวิธีการดั้งเดิมยังขาดประสิทธิภาพ ทำให้ผลผลิตเสียหายหรือตกค้างอยู่ในแปลงบ่อยครั้ง

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เกษตรกรบ้านเขานาใน จึงได้ร่วมมือกับ KUBOTA นำเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาประยุกต์ใช้ในการเพาะปลูกขมิ้นชันน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกได้มากแค่ไหน ติดตามผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไปพร้อมกัน กับ KAS

จากท้องทุ่งถึงทั่วโลก
ขมิ้นชันสมุนไพรที่ไม่อาจมองข้าม

หากจะหาคำนิยามที่พูดถึงขมิ้นชัน สมุนไพรคู่ครัวของชาวใต้ ที่ใช้ปรุงรสอาหารได้หลากหลาย และมากสรรพคุณ คงจะหนีไม่พ้นคำว่า “กินอาหารเป็นยา” อีกทั้งขมิ้นชันยังมีตลาดรองรับมาอย่างยาวนาน และเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นในช่วงเวลานี้ เนื่องจากมีการค้นพบ “สารเคอร์คูมิน (Curcumin)” สารสำคัญที่มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรักษาโรค เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ แผลในกระเพาะอาหาร หรือประโยชน์ด้านความงาม เช่น ลดสิว ลดริ้วรอย และต้านอนุมูลอิสระ ขมิ้นชันจึงกลายเป็นที่ต้องการของทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะขมิ้นชันของบ้านเขานาใน ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเหนือกว่ามาตรฐาน

เผยความลับดินฟ้าอากาศ ที่ทำให้ขมิ้นชันบ้านเขานาใน มีคุณภาพเหนือระดับ

สิ่งที่ทำให้คุณภาพของขมิ้นชันจากบ้านเขานาในโดดเด่นกว่าที่อื่น คือ ปริมาณสารเคอร์คูมินที่มากกว่า ซึ่งเกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศที่เป็นใจ ดังนี้

  • ดินธรรมชาติที่มีสภาพกรด มีค่าความเป็นกรด – ด่าง (pH) เฉลี่ยที่ 5 – 6 เหมาะสำหรับการปลูกขมิ้นชัน
  • ฝนตกชุก ทำให้มีน้ำปริมาณมาก ซึ่งขมิ้นชันเป็นพืชที่ต้องการน้ำสูงเพื่อเจริญเติบโต
  • พื้นที่ลาดเอียง ถึงแม้ขมิ้นชันจะต้องการน้ำมาก แต่ก็ไม่ชอบน้ำท่วม การมีพื้นที่ลาดเอียง จะทำให้น้ำไหลออกอย่างรวดเร็วและไม่เกิดการท่วมขัง
  • แดดจัดในหน้าแล้ง ขมิ้นชันจะหลั่งสารคูเคอร์มินออกมามากขึ้น เมื่อพบเจอสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและมีแสงแดดจัด ซึ่งทำให้เกิดความเครียด

ด้วยปัจจัยที่เพียบพร้อมแบบนี้ ทำให้ขมิ้นชันของบ้านเขานาใน มีสารเคอร์คูมินเฉลี่ยอยู่ที่ 8 – 10 ในขณะที่พื้นที่อื่นจะมีสารเคอร์คูมินเฉลี่ยเพียง 5 – 6 เท่านั้น

พัฒนาการปลูกขมิ้นชันบ้านเขานาใน
จากแรงงานคนสู่เครื่องจักรกลการเกษตร

การปลูกขมิ้นชันของบ้านเขานาในจะเป็นการปลูกแซมสวนยางหรือปาล์ม เพื่อให้พื้นที่เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะเริ่มปลูกในเดือนพฤษภาคมถึงต้นกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน และเก็บเกี่ยวตอนเดือนเมษายนที่แห้งแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ขมิ้นชันจะหลั่งสารเคอร์คูมินได้ดี

การปลูกขมิ้นชันด้วยแรงงานคน

ในการปลูกขมิ้นชันช่วงแรก ๆ ของหมู่บ้านเขานาใน จะใช้แรงงานคนตลอดทั้งกระบวนการ ดังนี้

  • ปลูกขมิ้นชันเป็นแถวเดียวตลอดแนว
  • ไม่มีการเตรียมดินและไถพรวนดินก่อนปลูก
  • ใช้จอบขุดดินและวางหัวขมิ้นชันด้วยมือโดยตรง
  • การบำรุงรักษาจะใช้แรงงานคนในการ ถางหญ้า 3 – 4 เดือน/ ครั้ง
  • การเก็บเกี่ยวใช้แรงงานคนในการขุดและเก็บเกี่ยว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแรงงานภาคเกษตรหายากขึ้น ส่งผลให้ชุมชนต้องปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกใหม่ โดยได้รับความร่วมมือจาก KUBOTA ภายใต้โครงการ “ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า (KFC)” ซึ่งได้มอบเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกในพื้นที่ โดยเลือกเป็นเครื่องจักรกลที่เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปต่อยอดใช้เองได้ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องจักรที่หาได้ยากจากภายนอก

การปลูกขมิ้นชันด้วยเครื่องจักรกลการเกษตร

โดยวิธีการแบบ KAS

เมื่อมีเครื่องจักรกลการเกษตรประสิทธิภาพสูง รูปแบบการเพาะปลูกของกลุ่มเขานาในก็เริ่มเปลี่ยนไป โดย สยามคูโบต้า ได้มีการพัฒนากระบวนการเพาะปลูกขมิ้นชันโดยประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในแต่ละกระบวนการเพาะปลูกตามแบบฉบับของ KAS โดยมีวิธีการดังนี้

  • การเตรียมดินด้วยแทรกเตอร์ L5018SP ติดตั้งผานพรวน เพื่อพลิกหน้าดินและกลบวัชพืช ซึ่งจะช่วยให้ดินมีอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารมากขึ้น
  • การตีดิน ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงโรตารี่เพื่อให้ดินฟูละเอียดขึ้น ช่วยให้ขมิ้นชันสามารถแตกหัวในดินได้ง่ายและดีมากขึ้น
  • การยกร่อง ปรับใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงผานขุดจากเครื่องปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งจะช่วยให้ได้ร่องปลูกที่พอดี ไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
  • การปลูกหัวขมิ้นชัน ปัจจุบันยังคงปลูกโดยใช้แรงงานคนในการหยอดในหลุมที่ขุดบนร่องปลูก ให้ระยะห่างระหว่างหลุมปลูกอยู่ที่ 50 x 70 ซม. โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงของการศึกษาและพัฒนาการปลูกด้วย รถปลูกผัก KP-202
  • การให้ปุ๋ย จะใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลักและมีการเพิ่มปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ขมิ้นชันได้รับปุ๋ยมากจนเกินไป
  • การบำรุงรักษา ใช้เครื่องตัดหญ้าพ่วงแทรกเตอร์ในการกำจัดวัชพืช และโดรนรุ่น T10 ในการพ่นสารชีวภัณฑ์เพื่อป้องกันแมลง

การเก็บเกี่ยว ประยุกต์ใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงเครื่องขุดมันในการเก็บเกี่ยว และใช้แรงงานคนเดินตามเก็บหัวขมิ้นชันที่ขุดออกมา

ประสิทธิภาพดีขึ้นแค่ไหน?
ถ้าเปลี่ยนจากแรงงานคนมาใช้เครื่องจักร

เปรียบเทียบผลลัพธ์การปลูกขมิ้นชันบ้านเขานาใน ระหว่าง แรงงานคน VS เครื่องจักรกลการเกษตร

หัวข้อแรงงานคนเครื่องจักรกลการเกษตร
ต้นทุนเก็บเกี่ยว (บาท/ ไร่)6,0002,000 – 3,000
การเจริญเติบโต (ต้น/ หลุม)3 – 47 – 8
น้ำหนัก (กิโลกรัม/ หัว)1.21.6
ระยะเวลาเก็บเกี่ยว (วัน/ ไร่)2 – 31
ปริมาณสาร (ขึ้นอยู่กับพื้นที่)8 – 108 – 10
ผลผลิตตกหล่นมากกว่าน้อยกว่า

จากตาราง จะเห็นได้ชัดว่าการปลูกขมิ้นชันด้วยเครื่องจักรกลการเกษตร มีประสิทธิภาพมากกว่าปลูกด้วยแรงงานคนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การลดต้นทุน การเจริญเติบโต น้ำหนักต่อหัว ระยะเวลาเก็บเกี่ยว และลดผลผลิตตกหล่น ชี้ให้เห็นว่าการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าในการปลูกขมิ้นชัน ซึ่งจะทำให้การเก็บรักษาและแปรรูปของเกษตรกรง่ายขึ้น

จากไร่สู่ตลาด ! วิธีเแปรรูปขมิ้นชัน

สร้างมูลค่าเพิ่มในตลาด

ที่บ้านเขานาใน หลังจากเก็บเกี่ยวขมิ้นชันแล้ว เกษตรกรสามารถนำมาต่อยอดสร้างรายได้ได้หลากหลายวิธี ดังนี้

  • ตัดแต่งและคัดหัวแม่พันธุ์ เลือกขมิ้นชันที่มีสุขภาพดี เพื่อนำไปปลูกในรอบถัดไป

ตากแห้งเพื่อส่งให้โรงพยาบาล ขมิ้นชันแห้งน้ำหนัก 500 กิโลกรัม ถูกส่งให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ตามข้อตกลง (MOU) เพื่อนำไปผลิตเป็นยาผงบรรจุแคปซูล

แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็น เครื่องแกงผง ครีมนวด สบู่ สครับ และ น้ำมันว่าน 108 ที่สามารถต่อยอดสู่ตลาดสุขภาพและความงาม

  • อาหารสัตว์จากขมิ้นชัน นำขมิ้นชันผสมกับเศษปาล์ม เพื่อลดการใช้ฟางซึ่งหาได้ยากในภาคใต้ ช่วยให้วัวมีสุขภาพดีขึ้น
  • น้ำหมักชีวภาพ ใช้เศษขมิ้นชันที่เหลือ หมักเป็นน้ำหมักชีวภาพ เพื่อฉีดพ่นบำรุงดินและพืชในแปลงเพาะปลูกรอบถัดไป

ด้วยเทคนิคการเก็บรักษาและแปรรูปขมิ้นชันเหล่านี้ จะทำให้ใช้ทุกส่วนของขมิ้นชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีเศษเหลือทิ้ง เปลี่ยนขมิ้นชันธรรมดาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้มหาศาลพร้อมต่อยอดสู่ธุรกิจการเกษตรที่เต็มไปด้วยความยั่งยืน

ปลูกขมิ้นชัน เสริมรายได้

กับศูนย์เรียนรู้พลังชุมชนเกษตรสร้างสุข

หากเกษตรกรสนใจปลูกขมิ้นชันเพื่อเพิ่มรายได้ ขอเชิญเยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้พลังชุมชนเกษตรสร้างสุข สยามคูโบต้า เขานาใน ที่นี่ให้ความรู้เกี่ยวกับขมิ้นชันตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว พร้อม Workshop การแปรรูปขมิ้นชัน เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องแกงผง ครีมนวด สบู่ สครับ และน้ำมันว่าน 108

ภายในศูนย์ยังมีธนาคารสมุนไพร ที่เปิดโอกาสให้ศึกษาสารสำคัญของขมิ้นสายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ขมิ้นชัน ขมิ้นดำ ขมิ้นขาว ขมิ้นอ้อย ขมิ้นด้วง และขมิ้นแดงสยาม ทั้งยังสามารถขอยืมพันธุ์ไปปลูกและเผยแพร่ได้ แต่ต้องทำการแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าไปนะครับ สนใจเข้าชมและเรียนรู้ ติดต่อได้ ที่นี่ หรือโทร 087-893-9619

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาน้ำท่วมขังในแปลงเพาะปลูก ควรแก้ไขอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ
ปุ๋ย หนึ่งในตัวช่วยของเกษตรกร ที่จะยกระดับประสิทธิภาพของการเพาะปลูก ปลูกผักก็ขึ้นงาม ปลูกผลไม้ก็โตง่าย เพิ่มผลผลิตให้งอกเงยสมบูรณ์ ได้ผลผลิตตามต้องการ และมีคุณภาพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งบทความนี้ KUBOTA จะมาเจาะลึกทุกรายละเอียดทุกประเด็น ของปุ๋ย จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
หากพื้นที่แปลงผักอยู่ห่างไกล ไม่มีไฟฟ้าใช้งาน เกษตรกรจะทำอย่างไรให้พื้นที่ปลูกผักใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด