การทำสิ่งกีดขวางชะลอน้ำ

น้ำกัดเซาะทุกวัน หน้าดินพังทลาย จะแก้ปัญหานี้อย่างไรได้บ้าง ?

มวลน้ำไหลบ่าแรง เป็นปัญหาที่ส่งผลให้หน้าดินพังทลาย อีกทั้งยังทำให้บ่อน้ำตื้นเขินอีกด้วย
แล้วเกษตรกรควรแก้อย่างไร ? ในบทความนี้คูโบต้าขอเสนอการทำฝายชะลอน้ำ เพื่อลด
ความแรงในการไหลบ่าของน้ำ และแก้ปัญหาหน้าดินพังทลาย จะมีวิธีใดบ้าง มาดูกันครับ

การทำฝายชะลอน้ำ สามารถทำได้โดยการประยุกต์การทำฝายธรรมชาติ มาใช้ในพื้นที่
ทำการเกษตร โดยทำฝายชะลอน้ำบริเวณคลองรับส่งน้ำ หรือร่องน้ำที่มีอยู่รอบพื้นที่
เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน หรือน้ำไหลบ่าเข้าพื้นที่เกษตรกรรม

พื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างฝาย ได้แก่ 1. พื้นที่ลาดเอียง ที่ทำให้เกิดกระแสน้ำไหลแรง
ควรทำฝายชะลอความแรงของน้ำ  และ 2. พื้นที่ร่องน้ำ ดินเกาะตัวไม่แน่น ควรปลูกแฝก
บริเวณขอบสระ หรือปลูกหญ้าคลุมดิน

การทำฝายชะลอน้ำควรเลือกใช้วัสดุที่หาได้ง่าย ทนทาน และมีอายุการใช้งานนาน เช่น บล็อกปูน ถุงทราย หรือวัสดุธรรมชาติ เช่น หญ้าแฝก เป็นต้น

บล็อกปูน ควรวางห่างกัน 3 – 5 เมตร โดยวางตรงข้ามกัน ในแนวทะแยง

ถุงทราย ควรวางให้สูงกว่าความลึกของร่องน้ำ 50%

การใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น การปลูกหญ้าแฝก เป็นต้น

การทำสิ่งกีดขวางชะลอน้ำจะช่วยลดความเร็วของน้ำ เพิ่มออกซิเจนในน้ำ และทำให้พื้นที่ชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์ขึ้นอีกด้วย

หากอยากติดตามข่าวสาร ความรู้ดี ๆ แบบนี้ อย่าลืมติดตามได้ที่ https://kas.siamkubota.co.th/

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

การทำนาในประเทศไทย เกษตรกรมีการปลูกข้าวนาปี หรือ ข้าวที่ต้องอาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูก เป็นส่วนมาก ซึ่งเพาะปลูกได้เพียงหนึ่งรอบต่อปี เกษตรกรหลายรายจึงจำใจปล่อยแปลงนาของตนให้รกร้าง ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นการเสียโอกาสในการสร้างรายได้เป็นอย่างมาก แต่พี่น้องเกษตรกรที่ ต.ปากดุก
นาข้าวต้องเขียว ถึงจะดีจริงหรือ วันนี้มาหาคำตอบกัน
ดอกคัตเตอร์ เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่นิยมปลูกในหลายพื้นที่ เนื่องจากความต้องการสูงและมีตลาดรองรับตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงวิธีการปลูกกลับพบว่า เกษตรกรหลายรายยังคงใช้แรงงานคนในการปลูก ซึ่งอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้รถปลูกผัก KP202 เครื่องจักรกลการเกษตรยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์การเพาะปลูกดอกคัตเตอร์ในปัจจุบันได้มากกว่า