รู้จักเกษตรแม่นยำ เทคนิคเพิ่มผลผลิตด้วยเทคโนโลยี

รู้จักเกษตรแม่นยำ เทคนิคเพิ่มผลผลิตด้วยเทคโนโลยี

เกษตรแม่นยำ แนวคิดการเกษตรแห่งยุคดิจิตอล ที่จะช่วยให้เกษตรกรเห็นถึงวิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสม
ในสภาวะแวดล้อมหรือสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเพาะปลูก
ให้มากขึ้น ซึ่งเกษตรแม่นยำคืออะไร บทความนี้ KAS จะมาบอกให้กับคุณ

เกษตรแม่นยำ คืออะไร

เกษตรแม่นยำ หรือ Precision agriculture คือ การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีและข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้ทรัพยากรในกระบวนการเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน

ตัวอย่าง เทคโนโลยี เกษตรแม่นยำ

ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีในการทำเกษตรแม่นยำ

  • ชุดตรวจวัดดินแบบพกพา ใช้ตรวจวัดคุณภาพของดิน เช่น pH ความชื้น และปริมาณธาตุอาหารในดิน ทำให้ทราบว่าควรปรับปรุงดินอย่างไรให้มีคุณภาพเหมาะสมกับพืชที่ต้องการเพาะปลูก
    ช่วยให้พืชเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และแข็งแรง
  • เซนเซอร์ตรวจวัดสภาพพืช อุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม
    และสุขภาพของพืช ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตามและจัดการการเจริญเติบโตของพืชได้
    อย่างแม่นยำ เช่น เซนเซอร์วัดความชื้นในดิน เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เซนเซอร์วัดค่าความเข้มแสง
    และเซนเซอร์วัดระดับคลอโรฟิลล์ เป็นต้น
  • Auto Steering (ระบบควบคุมทิศทางการทำงานเครื่องจักรอัตโนมัติ) คือ ระบบที่ช่วยให้เครื่องจักรกลการเกษตรสามารถขับเคลื่อนได้เองโดยอัตโนมัติตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
    โดยใช้เทคโนโลยี GPS และเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบตำแหน่งและทิศทางของเครื่องจักร
    อย่างแม่นยำ จึงทำงานได้มีประสิทธิภาพ ลดความสิ้นเปลืองในกระบวนการทำงาน เช่น การไถดิน
    ได้ตรงแนว ไม่ขับทับรอยการทำงานเดิม ลดการทำงานที่สิ้นเปลือง หรือการปลูกพืช หยอดเมล็ดได้เป็นแถวอย่างแม่นยำ ผลผลิตจึงเติบโตได้เต็มที่ เป็นต้น
  • เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัด คือปุ๋ยที่ผลิตออกมาสำหรับพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะซึ่งจะช่วยให้ดินมีธาตุอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืช ช่วยให้พืชเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณที่สูง

ข้อดีของ เกษตรแม่นยำ

ข้อดีของเกษตรแม่นยำมีดังนี้

1. ลดต้นทุน

เกษตรแม่นยำ ช่วยให้รวบรวมข้อมูลของดินและพืชได้อย่างละเอียด ทำให้ทราบถึงคุณภาพของดิน
ในพื้นที่นั้น ๆ ว่าเหมาะสำหรับเพาะปลูกพืชชนิดใด ควรหว่านเมล็ดมากหรือน้อย และแต่ละแปลง
ควรใช้ปุ๋ยในปริมาณเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ช่วยให้ต้นทุนการทำเกษตรลดลง

2. เพิ่มผลผลิต ผลกำไร

เกษตรแม่นยำ สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจดูคุณภาพดิน ปุ๋ย และเมล็ดได้ก่อนเพาะปลูก ช่วยให้
การปลูกพืชมีประสิทธิภาพ ได้รับผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณที่สูง สร้างผลกำไรให้เกษตรกรได้มากขึ้น

3. จัดการพื้นที่การทำเกษตรได้ดีขึ้น

เกษตรแม่นยำ ช่วยให้เก็บข้อมูลแปลงเพาะปลูกต่าง ๆ ได้แบบ Real-time ทำให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อพืชเช่น สภาพอากาศ วัชพืช แมลง และโรคพืช ได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้เกษตรกรสามารถหาแนวทางการป้องกัน เพื่อลดผลกระทบที่ส่งผลกับพืชให้เหลือน้อยที่สุด
รวมไปถึงจัดการพื้นที่การเกษตรอย่างมีคุณภาพช่วยให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น

4. ลดการใช้ทรัพยากรก่อให้เกิดความยั่งยืน

เกษตรแม่นยำ จะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลให้การใช้ปุ๋ย
และสารเคมีน้อยลง ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการปนเปื้อนในที่ดินและแหล่งน้ำ
ก่อให้เกิดความยั่งยืน ใช้ประโยชน์ได้อย่างยาวนาน

สรุปทั้งหมด เกี่ยวกับ เกษตรแม่นยำ

เกษตรแม่นยำ คือแนวคิดที่ยกระดับการทำเกษตรจากรูปแบบเดิม ที่ต้องคอยพึ่งพาฟ้าฝน
ซึ่งไม่มีความแน่นอน เปลี่ยนมาเป็นใช้ข้อมูลอ้างอิงซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า ช่วยให้เพาะปลูก
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เก็บเกี่ยวได้อย่างมีประสิทธิผล และใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ส่งผลให้
เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สัมผัสเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำได้ฟรี! กับ KUBOTA Farm

เปลี่ยนการเกษตรรูปแบบเดิมสู่รูปแบบใหม่ไปพร้อมกันกับ KUBOTA สัมผัสประสบการณ์การทำเกษตร
ยุคใหม่แบบไม่มีค่าใช้จ่ายก่อนใคร คลิกที่นี่ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางดังนี้

ดาวน์โหลด :

ที่มาของข้อมูล :

บทความที่เกี่ยวข้อง

แช่ท่อนพันธุ์ ปลูกมันฯ รวยแน่ ค่าสารเคมีไร่ละ 20 บาท เท่านั้น
ประมาณการการผลิตและการใช้เอทานอลในตลาดโลก ปี ๒๐๑๔/๒๐๑๕ ISO คาดการณ์ว่า ผลผลิตเอทานอลของโลกในปี ๒๐๑๕ จะเติบโตขึ้น ๔% เป็น ๙๗ พันล้านลิตร ความต้องการใช้เอทานอลของโลก เพิ่มขึ้น ๖% จากจำนวน ๙๓.๑ พันล้านลิตรในปี ๒๐๑๔ เป็น ๙๖ พันล้านลิตรในปี ๒๐๑๕ ทั้ง ๆ ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ความเคลื่อนไหวของการผลิต