การทำนาดำในปัจจุบันมีหลายวิธีการในการผลิต และยังมีการนำเครื่องจักรกลต่างๆมาใช้ในกระบวนการผลิตมากขึ้น หากเกษตรกรเลือกวิธีการและการใช้เครื่องจักรกลไม่เหมาะสมกับการทำงาน จะส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย และต้นทุนในการผลิตสูง ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการผลิตและการเลือกใช้เครื่องจักรกลให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเตรียมดิน การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวโดยมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมดิน
ปัจจุบันเกษตรนิยมเผาตอฟางข้าว เพื่อเร่งรอบการทำนา ส่งผลให้พื้นนาไม่เรียบ ไม่สามารถคุมระดับน้ำได้ ถ้าหากเกษตรก้าวสู่ขั้นตอนการเตรียมดินที่ดีตามฉบับสยามคูโบต้า จะสามารถควบคุมคุณภาพการเตรียมดินได้ พื้นที่นามีขนาดเหมาะสม สามารถทำงานได้ง่าย และสามารถควบคุมระดับน้ำได้สม่ำเสมอ โดยขั้นตอนการเตรียมดินที่ดี ประกอบด้วย
ขั้นตอนที่ 1 การไถกลบตอซัง ให้ทำการไถกลบตอซังขณะฟางยังสด จะช่วยให้ฟางย่อยสลายง่าย จากนั้นหมักฟางทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วัน
เครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับการไถกลบตอซัง คือ แทรกเตอร์รุ่น L32-50 แรงม้า ต่อพ่วงด้วยจอบหมุนรุ่น RX183 สามารถปั่นขวางรอยรถเกี่ยวได้ ซึ่งจะช่วยให้ปั่นได้ง่าย และเศษฟางไม่ติดใบจอบหมุน
ขั้นตอนที่ 2 การไถพรวน เป็นการไถพรวนเพื่อให้ดินละเอียด เป็นเลน ทำลายเศษวัชพืชซึ่งจำนวนครั้งของการไถพรวนขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของวัชพืช
เครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับการไถพรวน คือ แทรกเตอร์ รุ่น L32-50 แรงม้า ต่อพ่วงด้วย
ขั้นตอนที่ 3 ขลุบ ลูบเทือก ชักร่อง เพื่อย่ำตอซังและเศษวัชพืชที่ยังเหลืออยู่บนผิวดิน และลูบหน้าดินให้เรียบและปรับระดับดินให้สม่ำเสมอทั่วทั้งแปลง
เครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับการทำขลุบ และลูบเทือก คือ แทรกเตอร์ L32-50 แรงม้า ต่อพ่วงด้วยขลุบหมุนรุ่น RH241 สามารถขลุบดินละเอียด ลูบดินเรียบ และได้งานไว
ขั้นตอนการเพาะปลูก
เกษตรกรนิยมทำนาดำโดยวิธีการหว่าน ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ต้นทุนในการผลิตสูง เนื่องจากใช้เมล็ดพันธุ์ถึง 30 กิโลกรัมต่อไร่ และมักเกิดปัญหาข้าวดีด ข้าวเด้ง ถ้าหากเกษตรเปลี่ยนจากการทำนาหว่านเป็นการทำนาดำ โดยการนำต้นกล้าที่มีอายุเหมาะสมนำมาปักดำด้วยรถดำนาสามารถปรับตั้งระยะปลูกระหว่าง
ต้นได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถดูแลต้นข้าวได้ง่าย แก้ไขปัญหาข้าวดีด ข้าวเด้ง ได้อย่างยั่งยืน และลดทุนด้านเมล็ดพันธุ์เนื่องจากวิธีนาดำนี้ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 10 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนั้นผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวนั้น ควรเก็บเกี่ยวที่ระยะพลับพลึงอายุประมาณ 28-30 วันหลังจากที่ข้าวออกรวงซึ่งเป็น
ระยะที่ข้าวสะสมน้ำหนักสูงสุด และควรปล่อยน้ำออกจากแปลงให้แห้งก่อนการเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 10 วัน เพื่อให้รวงข้าวสุกแก่พร้อมกัน ซึ่งจะสะดวกต่อการทำงานของรถเกี่ยวนวด หากเกษตรกรเลือกใช้ใช้รถเกี่ยวนวดที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้ข้าวร่วงหล่น พื้นที่นาเสียหาย และประสิทธิภาพในการเก็บเกี่ยวลดลง ดังนั้นควรเลือกใช้รถเกี่ยวนวดที่มีน้ำหนักเบา จะไม่ทำให้เกิดนาหล่ม และร่องหล่มลึกได้
ขั้นตอนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
หลังจากการเก็บเกี่ยวเกษตรกรจะทำการเผาฟางข้าว เป็นวิธีการที่ทำลายความสมบูรณ์ของหน้าดิน ทำลายจุลินทรีย์หน้าดินที่มีประโยชน์ และทำลายสิ่งแวดล้อม หากเกษตรกรจัดการฟางที่ดีโดยการอัดก้อนเพื่อจำหน่าย หรือใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน จะเป็นวิธีที่สามารถลดโลกร้อน และส่งผลให้โครงสร้างดินไม่เสื่อมสภาพได้
การทำนาดำตามฉบับสยามคูโบต้านั้นจะเห็นได้ว่าเป็นวิธีที่สามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกวิธีหนึ่ง หากเกษตรกรต้องการข้อมูลการเพาะปลูกข้าวและการดูแลรักษาข้าวเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.kubotasolutions.com