ก่อนปลูก
- เก็บตัวอย่างดิน เมื่อวิเคราะห์และทำแผนที่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
- ไถเตรียมดิน ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เหมาะสม
- ไถระเบิดดินดาน โดยใช้เครื่องไถระเบิดดินดาน ตราช้างรุ่น SS5 ซึ่งออกแบบหัว ริปเปอร์ให้เรียบแบบมีปีก ทำให้การระเบิดดินดานเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความลึกประมาณ 40-50 เซนติเมตร และ ทั่วพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกสามารถสะสมความชื้นและน้ำภายในดิน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของพืช
- ไถบุกเบิกไถให้ลึก 30 – 35 เซนติเมตร ด้วยผานบุกเบิก DP243H ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแทรกเตอร์คูโบต้าโดยเฉพาะ มั่นใจได้ในความทนทาน ไถดินลึก มีให้เลือกหลายขนาด ได้แก่ ผานขนาด 24 นิ้ว แบบ 3 ใบ และผานขนาด 26 นิ้ว แบบ 3 ใบ พร้อมชุดคัดท้ายปรับตั้งได้ เพื่อให้เหมาะกับการทำงานในแต่ละพื้นที่
- ไถพรวนด้วยผานพรวน DH247H ซึ่งเป็นอุปกรณ์ต่อพวงสำหรับแทรกเตอร์คูโบต้า M6040SU อุปกรณ์ชุดนี้จะช่วยให้ดินมีความร่วนซุยเหมาะสำหรับการเพาะปลูกมันสำปะหลัง
ท่อนพันธุ์
- เลือกท่อนพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่
- ท่อนพันธุ์เหมาะสมคือ อายุ 10 -12 เดือน ตัดทิ้งไว้ไม่เกิน 15 วัน โดยตัดเป็นท่อนให้มีความยาวประมาณ 25 เซนติเมตร มีตาไม่น้อยกว่า 7 ตา เส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2 เซนติเมตร
- แช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูก
การปลูก
ใช้แทรคเตอร์ติดตั้งพวงมาลัยอัตโนมัตินำร่องด้วยระบบ GPS เป็นต้นกำลังต่อพ่วงเครื่องปลูกมันสำปะหลัง CP 100 โดยรวม 3 ขั้นตอนในการปลูก คือ การยกร่องพร้อมใส่ปุ๋ย รองพื้น ตัดท่อนพันธุ์ และปลูก ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่เต็มประสิทธิภาพสะดวกต่อการจัดการ ลดการใช้แรงงาน ลดต้นทุน และลดการสูญเสียผลผลิต
30 – 120 วัน หลังจากการปลูก
- ฉีดพ่นยาคุมหญ้ากำจัดวัชพืชด้วยเครื่องพ่นอเนกประสงค์ BS350 ซึ่งสามารถฉีดพ่น ครอบคลุมสม่ำเสมอทั่วพื้นที่ พ่นอย่างต่อเนื่องด้วยหัวฉีดพ่นคุณภาพที่มีขนาดละอองและปริมาณการพ่นที่เหมาะสม รวมถึงการออกแบบระยะและองศาการพ่นมีการซ้อนทับกัน ทำให้การพ่นสารเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพทั่วพื้นที่ ไม่สิ้นเปลืองสาร
- ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินหรือแผนที่ความอุดมสมบูรณ์ของดิน เช่น ใส่ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโต สามารถใช้เครื่องฝังปุ๋ย SF440 ซึ่งฝังปุ๋ยลึก สม่ำเสมอ ได้ผลผลิตเต็มที่ การทำงานของหัวเปิดร่องที่ถูกออกแบบมาให้ทำมุมที่เหมาะสม แหวกดินอย่างเต็มประสิทธิภาพ ระบบจ่ายปุ๋ยถูกออกแบบให้ควบคุมปริมาณปุ๋ยโดนการทำงานของชุดลูกหยอด (ชุดโรลเลอร์) ทำให้อัตราการฝังปุ๋ยสม่ำเสมอ ได้ผลผลิตเต็มที่
30 – 360 วัน หลังจากการปลูก
- ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดที่ควบคุมการปิด – เปิดอัตโนมัติตามความต้องการของพืช
- วัดความเขียวของใบด้วยเครื่องวัดปริมาณคลอโรฟิลล์ (SPAD) เพื่อการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม
60 – 360 วัน หลังจากการปลูก
- สำรวจโรคพืชและแมลง อย่าสม่ำเสมอเพื่อทราบสถานการณ์การเข้าทำลาย
- ประเมินการเจริญเติบโตของพืช และการเกิดโรคพืชและแมลงศัตรูพืช ด้วยภาพถ่ายจากคนและจากอากาศยานไร้คนขับ (UAV)
- บันทึกการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยเซ็นเซอร์ เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการจัดการแปลง
การเก็บเกี่ยว
- เก็บเกี่ยวด้วยเครื่องขุดมันสำปะหลังตราช้าง CDC80 สามารถทดแทนแรงงาน ลดต้นทุน และลดการสูญเสียผลผลิต