กว่า 40 ปีที่สยามคูโบต้าเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรในอาเซียนได้เติบโตและยืนหยัดในการพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นเลิศ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาภาคเกษตรกรรมของประเทศไทยให้ก้าวหน้า และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา สยามคูโบต้าได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาช่วยทุ่นแรง ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต รวมทั้งส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรนำเครื่องจักรกลการเกษตรไปช่วยทำการเพาะปลูกพืชหลากหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในพื้นที่ที่สยามคูโบต้าได้เข้าไปส่งเสริม นั่นคือ จ.นครราชสีมา ในรูปแบบการทำแปลงปลูกมันสำปะหลังเปรียบเทียบกันระหว่างวิธีดั้งเดิมของเกษตรกรและวิธี KAS จำนวน 10 ไร่ ใช้พันธุ์ 81 ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2560 – เมษายน 2561 โดยมีคุณณภัทร เขากระโทก เกษตรกรหัวก้าวหน้าวัย 46 ปี เป็นผู้ร่วมทำแปลงทดสอบกับสยามคูโบต้าในครั้งนี้
คุณณภัทร เผยว่า ตนเองมีอาชีพปลูกมันสำมันปะหลังมากว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งแต่เดิมใช้รถไถเดินตามในการเตรียมดิน ส่วนการปลูกต้องใช้มีดฟันท่อนพันธุ์ให้เอียงเล็กน้อยและใช้มือปักท่อนพันธุ์ลงในดิน สุดท้ายในการเก็บเกี่ยวได้ใช้แรงงานคนขุดหัวมันด้วยจอบและตัดเหง้าให้เรียบร้อยก่อนส่งขายโรงงานผลิตแป้ง กระทั่งต่อมาตนเองได้มีการเปลี่ยนมาใช้แทรกเตอร์ติดตั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงในการเตรียมดินอยู่บ้าง ซึ่งก็พบว่าช่วยประหยัดเวลา และค่าจ้างแรงงานคนลงไปได้เยอะ แต่สำหรับขั้นตอนอื่นๆ นั้น ยังคงใช้แรงงานคนเหมือนเดิม จนล่าสุดตนเองได้เปลี่ยนแนวคิดที่จะนำเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาช่วยทำงานในขั้นตอนอื่นมากขึ้น หลังจากที่ได้เห็นผลลัพธ์จากการทำแปลงทดสอบร่วมกับสยามคูโบต้า
“เมื่อปีที่ผ่านมาได้มีเกษตรอำเภอติดต่อผมมาว่า ทางสยามคูโบต้ามีโครงการมาสอนการปลูกมันสำปะหลังด้วยวิธี KAS และผมมองว่าสยามคูโบต้าเองก็เป็นบริษัทใหญ่ที่ขายและผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรอยู่แล้ว จึงน่าจะมีวิธีใหม่ๆ มาสอนพวกเราในชุมชน เลยตัดสินใจเข้าร่วม โดยใช้พื้นที่ไร่มันสำปะหลังของผมเองในการทดสอบ และหลังจากที่ร่วมมือกันมาปีกว่า พบว่า วิธีที่เขามาสอนนั้นได้ผลผลัพธ์ที่ดีจริงๆ”
คุณณภัทร พูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการร่วมมือกับสยามคูโบต้าว่า ทีมงานได้แนะนำให้ตนเองใช้แทรกเตอร์ในการระเบิดดินดาน และไถดะ ส่วนการปลูก ยังได้แนะนำให้ใช้เครื่องปลูกมันสำปะหลัง เพราะจะได้ระยะการปลูกและความลึกของท่อนพันธุ์ที่สม่ำเสมอกัน ส่งผลให้ได้หัวมันที่ใหญ่ ยาว และน้ำหนักดี ต่างจากวิธีดั้งเดิมของตนเองที่ใช้คนปลูก ทำให้ท่อนพันธุ์เอียง ได้ความลึกและตื้นของต้นมันไม่ค่อยเสมอกัน ส่วนการเก็บเกี่ยว ตนเองได้เห็นทีมงานใช้แทรกเตอร์ติดเครื่องขุดมันสำปะหลัง สามารถเก็บผลผลิตได้สะดวกและรวดเร็ว ไม่กี่ชั่วโมงก็เก็บหัวมันได้หมดแล้ว และจากการทำแปลงเปรียบเทียบ พบว่าแปลงที่ปลูกด้วยวิธี KAS ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% แถมยังประหยัดเวลามากกว่า และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพด้วย
“จากที่ผมได้เห็นการนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ในขั้นตอนต่างๆ ของการปลูกมัน ผมค่อนข้างมั่นใจและยอมรับในวิธี KAS มากขึ้นครับ อีกทั้งยังได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ทยอยแวะเวียนมาศึกษา และเริ่มให้การยอมรับด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะได้ผลผลิตที่มากขึ้นแล้ว ไม่ต้องไปหาจ้างแรงงานด้วยครับ ซึ่งในอนาคต ผมก็จะนำวิธีการปลูกด้วย KAS ไปใช้ในพื้นที่ของผมทั้งหมดครับ และจะเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ทั้งจากทีมงาน และวิทยากรที่มาช่วยสอน ไปเผยแพร่ให้กับพี่น้องชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงด้วยครับ”
หมายเหตุ: ตัวเลขทั้งหมดได้จากการเก็บข้อมูลจากแปลงส่งเสริมของสยามคูโบต้า และแปลงของคุณณภัทร เขากระโทก เกษตรกรเจ้าของแปลง โดยผลการทดสอบอาจเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพพื้นที่ ภูมิอากาศ การระบาดของโรคและแมลง การระบาดของวัชพืช อัตราค่าจ้างแรงงานในแต่ละพื้นที่ พฤติกรรมการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ การเลือกพันธุ์ที่ใช้ปลูก และปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่และในแต่ละปี รวมทั้งขึ้นอยู่กับผลค่าวิเคราะห์ดิน
