ระบบจัดการน้ำในสวนลำไยแสนไชย

คุณนิโรจน์ แสนไชย เจ้าของ “สวนแสนไชย” ผู้อยู่ในวงการลำไยมาอย่างยาวนาน ทั้งลองผิดลองถูก จนสวนแห่งนี้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดลำพูน มีพื้นที่ปลูกลำไยกว่า 86 ไร่ ภายในสวนได้ปลูกลำไยแบบต้นเตี้ยระยะชิด ขนาด 6X6 เมตร และปลูกลำไยพันธุ์ “อีดอ” ทั้งหมด จำนวน 3,200  ต้น มีการวางระบบการให้น้ำแบบอัตโนมัติครอบคลุมทั้งพื้นที่ทำให้ลดจำนวนแรงงาน ประหยัดเวลา และประหยัดค่าใช้จ่าย

สภาพพื้นที่ของสวนแสนไชย เป็นที่ราบลุ่มริมน้ำปิง มีลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารครบ โดยแหล่งน้ำมี 2 ส่วนคือ พื้นที่สวนติดกับแม่น้ำปิงและมีการขุดบ่อบาดาลน้ำตื้นไว้ใช้ในสวนอีกด้วย

ซึ่งในอดีตการให้น้ำของสวนแสนไชย ใช้วิธีการสูบน้ำปิงเข้ามาในสวนแล้วให้คนงานใช้สายยางฉีดน้ำพ่นแบบราดบนพื้นดิน ต่อมาเปลี่ยนวิธีการให้น้ำเป็นการสูบน้ำปิงขึ้นมาที่แท้งค์ แล้วมามาน้ำเปิดตามท่อ แต่ก็ยังเสียเวลา ยังใช้แรงงานมาก และเปลืองน้ำ จึงได้เปลี่ยนมาให้น้ำแบบสปริงเกอร์และมินิสปริงเกอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการให้น้ำดีและประหยัดน้ำมากขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้แรงงานคนในการเปิดปิดประตูน้ำ กว่า 100 ตัว ทั่วทั้งสวนอยู่ จึงอยากลดการใช้แรงงาน โดยการนําเครื่อง Timer เข้ามาใช้ในระบบการให้น้ำ

คุณนิโรจน์ ได้ไว้วางแผนการจัดการน้ำในสวนลำไยแยกโซน ออกเป็น 5 โซนด้วยกัน โดยกําหนดเวลาบน Timer และเมื่อถึงเวลา Timer ที่เชื่อมต่อกับ เริ่มจากใช้ปั๊มหอยโขง ขนาด 4 นิ้ว 4 แรงม้า ทั้งหมด 3 ตัว จะทําการสูบน้ำจากแม่น้ำปิงต่อกับท่อเมนจํานวน 4 ท่อ ขนาด 4 นิ้ว มี 4 ประตูน้ำ ซึ่งแต่ละท่อเมนหลักจะมีท่อย่อยขนาน 2-3 นิ้ว เชื่อมต่ออีก 10-20 ท่อ เมื่อน้ำผ่านประตูน้ำแล้วจะถูกส่งไปยังท่อย่อย 

ซึ่งแต่ละท่อย่อยจะเชื่อมต่อกับมินิสปริงเกอร์บริเวณทรงพุ่ม จะให้น้ำลำไยแต่ละต้นประมาณ 150 ลิตร/วัน/ต้น ซึ่งทั้ง 86ไร่ จะใช้เวลาการให้น้ำประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วแต่ความต้องการน้ำในแต่ละโซน ซึ่งลดจํานวนแรงงานลงและประหยัดเวลาในการทำงาน ส่วนในอนาคตกำลังจะติดตั้งแผงโซลาเซลล์ขนาด 8 นิ้ว เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าลง ลดต้นทุนการผลิตและประหยัดค่าใช้จ่าย ฃ

แบบการวางแผนระบบน้ำในสวนลำไย

สุดท้ายคุณนิโรจน์ กล่าวว่า “ความสำเร็จของสวนแสนไชย คือ การที่เราต้องอยากได้สิ่งที่ดีกว่า อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตัวเองมีมันดีแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ต้องมีสิ่งที่ดีกว่าเสมอ เราต้องปรับตัว พร้อมที่จะเรียนรู้ และนำมาปรับใช้ในสวนลำไยของตัวเอง”  

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันใครจะคิดว่าการทำเกษตรในเมืองกรุงนั้น จะสามารถสร้างรายได้หลักแสน ด้วยต้นทุนค่าไฟเพียง 0 บาทต่อเดือน วันนี้เรามาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ “พี่โบ้-วีระ สรแสดง”อดีตออแกไนซ์ที่สามารถเนรมิตพื้นที่ 9 ไร่ในย่านมีนบุรีให้เป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยวในเมืองกรุงที่มีชื่อขนานนามว่า “Res-q-farm” พี่โบ้ ได้
จากการสำรวจพื้นที่ และหาข้อมูลประกอบด้านต่าง ๆ จึงกำหนดขนาดสระที่จะดำเนินการขุด ด้วยรถขุดคูโบต้า รุ่น KX080-3 ขนาด 8 ตัน ให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำขนาด 40x20x2.5 เมตร ความสูงของคันดินขอบสระ 1.5 เมตร ความกว้าง 5 เมตร และความจุสระประมาณ 1,350 ลูกบาศก์เมตร สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มสุดของ
เราจะพาทุกคนร่วมเดินทางไปเรียนรู้การทำเกษตรแบบอินทรีย์ ณ ไร่รื่นรมย์ ตำบลงิ้ว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย พื้นที่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา มีการทำเกษตรอินทรีย์ทั่วพื้นที่ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับชุมชนด้วยความเข้าใจ เติบโตไปกับชุมชน ผ่านการออกแบบพื้นที่ พัฒนาและต่อยอดสินค้าเกษตรต่างๆ มากมาย หัวใจของการทำเกษตร