ปัจจุบันโดรนการเกษตรเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยอย่างแพร่พลาย เนื่องจากสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านแรงงานและช่วยประหยัดเวลาในขั้นตอนการดูแลรักษาพืชได้อีกด้วย การใช้โดรนในการดูแลรักษาพืชนั้นส่วนใหญ่จะเน้นเป็นการพ่นสารป้องกันกำจัดโรค แมลง และให้อาหารเสริมทางใบแก่พืช โดยนิยมใช้กับพืชหลักเศรษฐกิจ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย เป็นต้น เรามาดูกันว่าสามารถใช้โดรนในการดูแลพืชแต่ละชนิดในช่วงระยะเวลาใดได้บ้าง
การดูแลรักษาข้าว
- อายุ 7-10วัน ฉีดคุมวัชพืชก่อนข้าวเริ่มงอก(โดยในการกำจัดวัชพืชจะใช้โดรนในการฉีดคลุมเท่านั้น)
- อายุ 15-20วัน (ระยะกล้า) ฉีดพ่นฮอร์โมนช่วยเร่งการเจริญเติบโต และกระตุ้นการแตกกอของข้าว
- อายุ 35-40วัน (ระยะแตกกอ) เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคและแมลง ถ้าหากพบการระบาดควรฉีดพ่นสารเพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช และฉีดพ่นฮอร์โมนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตทางลำต้น
- อายุ 60-65วัน (ระยะตั้งท้องและออกรวง) ฉีดพ่นฮอร์โมน ช่วยสะสมอาหารและกระตุ้นการสร้างรวงของข้าว
- อายุ 90-95วัน (ระยะสะสมน้ำหนัก) ฉีดพ่นฮอร์โมน จะช่วยเพิ่มน้ำหนักเมล็ด
การดูแลรักษาอ้อย
- อายุ 7-10วัน ฉีดคุมวัชพืชชนิดก่อนงอก(โดยในการกำจัดวัชพืชจะใช้โดรนในการฉีดคลุมเท่านั้น)
- อายุ 30-120วัน (ระยะแตกกอ) ฉีดพ่นสารป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชและฉีดพ่นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต และกระตุ้นการแตกกอของอ้อย
- อายุ 120-180วัน (ระยะย่างปล้อง) ฉีดพ่นฮอร์โมนช่วยกระตุ้นการยืดตัวของข้อและปล้อง นอกจากนั้นยังเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ลำต้น ช่วยสะสมอาหาร น้ำตาล และน้ำหนักให้กับอ้อย
- อายุ 180-240วัน (ระยะสร้างน้ำตาล) ฉีดพ่นฮอร์โมนช่วยสะสมอาหาร น้ำตาล และน้ำหนักให้กับอ้อยก่อนทำการเก็บเกี่ยว
การดูแลรักษามันสำปะหลัง
- อายุ 7-10วัน ฉีดคุมวัชพืชหลังจากการปลูกทันที(โดยในการกำจัดวัชพืชจะใช้โดรนในการฉีดคลุมเท่านั้น)
- อายุ 30-90วัน (ระยะขยายทรงพุ่ม) ฉีดพ่นฮอร์โมนช่วยเร่งการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง
- อายุ 90-180วัน (ระยะขยายหัว สะสมน้ำหนัก และสะสมแป้ง) เฝ้าระวังการระบาดของเพลี้ยแป้ง หากพบการระบาดให้ทำการฉีดพ่นสารป้องกันทันที
- อายุ 180-240วัน (ระยะพักตัว) ฉีดพ่นฮอร์โมนจะช่วยกระตุ้นให้ต้นมันสำปะหลังเจริญเติบโตโดยแสดงอาการทิ้งใบ
โดยการดูแลรักษาพืชด้วยการใช้โดรนฉีดพ่นทำให้การปฏิบัติงานรวดเร็วกว่าการใช้แรงงานคนถึง 83เปอร์เซ็นต์ เพราะมีอัตราความเร็วในการทำงานถึง 1.5 – 2.0นาทีต่อไร่ โดยขึ้นอยู่กับสภาพพันธุ์พืช,ความสมบูรณ์,ความเข้มข้นของสารที่ใช้ และสภาพแวดล้อม
จากข้อมูลในการดูแลรักษาพืชเหล่านี้เราจะเห็นได้ว่าพืชทุกชนิดต้องมีการดูแลรักษาและเอาใจใส่ในแต่ละระยะอย่างละเอียดและถี่ถ้วน หากเกษตรกรยุคใหม่นำเทคโนโลยีการเกษตรใหม่ๆมาปรับใช้ในการทำการเกษตร จะส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและดีตามที่ต้องการ