การขยายร่องอ้อย ช่วยลดต้นทุน ได้อ้อยสดมีคุณภาพ

ทุกวันนี้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังเผชิญกับต้นทุนการเพาะปลูกที่สูง เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากค่าพันธุ์อ้อย ค่าจ้างแรงงานในการปลูกและใส่ปุ๋ย ดังนั้น สยามคูโบต้าจึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอ้อยแบบร่องกว้าง เพื่อสามารถใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเข้าไปดูแลไร่อ้อยได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพ ทำให้ได้ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าจ้างแรงงานคนได้อีกด้วย และหนึ่งในเกษตรกรตัวอย่างที่มีการขยายร่องอ้อย นั่นคือ คุณสุวิทย์ หอมเจริญ ผู้รับเหมาปลูกอ้อยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร

คุณสุวิทย์ หอมเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบันตนเองมีพื้นที่ปลูกอ้อยกว่า 500 ไร่ โดยทั้งหมดปลูกด้วยระยะห่างระหว่างแถว 1.50 เมตร ตามคำแนะนำของโรงงานน้ำตาลและทีมงานสยามคูโบต้าที่ได้เข้าไปส่งเสริม เพราะช่วยประหยัดท่อนพันธุ์ได้  ซึ่งจากเดิมถ้าปลูกอ้อยร่องแคบจะใช้ท่อนพันธุ์จำนวน 1.8 – 2 ตัน/ไร่ แต่ถ้าปลูกอ้อยร่องกว้างจะใช้ท่อนพันธุ์เพียง 1.2 ตัน/ไร่ ซึ่งผลผลิตที่ได้รับต่างกันชัดเจน ทั้งลำอ้อยที่ใหญ่กว่า อวบอิ่มกว่า ขายได้ราคาดีกว่า รวมถึงค่าความหวานที่ได้มาตรฐาน

“อีกหนึ่งเหตุผลที่ผมตัดสินใจปลูกอ้อยร่องกว้าง ก็เพราะบำรุงรักษาง่ายครับ เพียงแค่ใช้แทรกเตอร์ รุ่นเล็ก ขนาด 24 แรงม้า ติดอุปกรณ์ต่อพ่วงของคูโบต้า ก็ทำงานได้แล้ว ยกตัวอย่างง่ายๆ ในช่วงระยะยืดปล้องและระยะสร้างน้ำตาล ผมใช้แทรกเตอร์ติดเครื่องฝังปุ๋ย วิ่งเข้าไปในร่องอ้อย เพื่อใส่ปุ๋ยและพรวนดินในคราวเดียวกัน ช่วยลดการสูญเสียปุ๋ยจากความร้อนและการพัดพาของน้ำ ทำให้อ้อยได้รับปุ๋ยอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังใช้แทรกเตอร์ติดโรตารี่ มาปั่นดินและกำจัดวัชพืชในระยะช่องว่างระหว่างแถวอ้อยได้ด้วยครับ”

คุณสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ผลพวงจากการปลูกอ้อยร่องกว้าง ไม่เพียงแต่จะนำเครื่องจักรกลมาช่วยทำงานได้สะดวกขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนค่าจ้างแรงงานคนได้อีกด้วย เพราะเมื่อก่อนตนเองจ้างคน ในการใส่ปุ๋ย พรวนดิน และกำจัดวัชพืช รวม 3 ขั้นตอน โดยใช้คน 1 คนสามารถทำงานเต็มที่ได้แค่ 8 ไร่/วัน แต่ถ้าใช้แทรกเตอร์ 1 คัน สามารถทำงานได้มากกว่า 15 ไร่/วัน ซึ่งคิดดูแล้วก็คุ้มค่ามาก แถมงานยังเสร็จไว และเรียบร้อยดี

“ล่าสุดผมเพิ่งซื้อแทรกเตอร์ขนาด 50 แรงม้า ติดเครื่องคีบอ้อยตราช้างมาครับ เพราะไม่ต้องรอจ้างคนมาขนย้าย ใช้เครื่องคีบอ้อยแล้วขนขึ้นรถได้เลย ช่วยให้ขายได้ราคาดีอีกต่างหาก ในอนาคต ผมอาจจะซื้อเครื่องสางใบอ้อยและรถตัดอ้อยของคูโบต้าเพิ่มเติม เพราะมีการสนับสนุนให้ตัดอ้อยสดขาย ไม่เผา ทำให้ขายได้ราคาดีกว่า โดยโรงงานที่รับซื้อจะให้ราคาเพิ่มตันละ 70 บาท แต่ถ้าผมเผาอ้อยก่อนตัดขาย จะโดนหักราคาตันละ 30 บาท ทุกวันนี้เลยมาเน้นตัดอ้อยสดขายดีกว่า และยังช่วยรักษาคุณภาพดินและตออ้อยสำหรับการปลูกรอบถัดไปด้วยครับ”

การปลูกอ้อยแบบร่องกว้าง ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยสนับสนุนให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถลดต้นทุนและได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้โรงงานน้ำตาลได้วัตถุดิบป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลที่มีคุณภาพ สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้มาตรฐานและมีคุณภาพเหมาะสำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป

หมายเหตุ: ตัวเลขทั้งหมดได้จากการเก็บข้อมูลในพื้นที่คุณสุวิทย์ หอมเจริญ โดยผลการดำเนินงานอาจเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพพื้นที่ ภูมิอากาศ การระบาดของโรคและแมลง การระบาดของวัชพืช อัตราค่าจ้างแรงงานในแต่ละพื้นที่ พฤติกรรมการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ การเลือกพันธุ์ที่ใช้ปลูก และปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่และในแต่ละปี รวมทั้งขึ้นอยู่กับผลค่าวิเคราะห์ดิน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ประเทศไทยมีพื้นที่ผลิตถั่วเขียวประมาณ 829,145 ไร่ มีความต้องการเมล็ดพันธุ์ 4,146 ตัน แต่รัฐผลิตได้ 617 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของความต้องการเมล็ดพันธุ์ทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 เกิดปัญหาฝนแล้งทำให้เกษตรกรไม่สามารถทำนาปรังได้ ประกอบกับนโยบายแทรกแซงราคาข้าวสิ้นสุดลง เกษตรกรจึงหันมาปลูกถั่วเขียวแทน
พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่ถูกน้ำท่วม เกิดความเสียหายที่มีระดับความรุนแรงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงอายุของปาล์มและสถานการณ์น้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ ดังนี้ 1. น้ำท่วมน้อยกว่า 15 วัน 1.1 น้ำที่ท่วมขังไม่มีตะกอนดิน ต้นปาล์มน้ำมันฟื้นฟูตัวเองได้หลังน้ำลด 1.2 น้ำที่ท่วมขังมีตะกอนดินหรือน้ำเน่าเสีย
ชนิด : ข้าวเจ้า ประวัติพันธุ์ :เป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมืองที่ปลูกดั้งเดิมใน จ.พัทลุง นาปี พ.ศ. 2531/32 ได้เริ่มคัดเลือกพันธุ์สังข์หยด (KGTC82239) จากแหล่งเก็บ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง หนึ่งในสามแหล่งของข้าวสังข์หยดของจังหวัด ซึ่งมีความแปรปรวนในลักษณะทางพันธุกรรมของประชากรที่เก็บ ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุงคัดเลือกได