
ดอกคัตเตอร์ เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่นิยมปลูกในหลายพื้นที่ เนื่องจากความต้องการสูงและมีตลาดรองรับตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงวิธีการปลูกกลับพบว่า เกษตรกรหลายรายยังคงใช้แรงงานคนในการปลูก ซึ่งอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้รถปลูกผัก KP202 เครื่องจักรกลการเกษตรยุคใหม่ ที่ตอบโจทย์การเพาะปลูกดอกคัตเตอร์ในปัจจุบันได้มากกว่า
ในบทความนี้ KAS หรือ KUBOTA (Agri) Solutions จะมาเปรียบเทียบวิธีการปลูกดอกคัตเตอร์ทั้ง 2 วิธี เพื่อช่วยให้เกษตรกรเห็นภาพและประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ต้นกำเนิดและพัฒนาการของดอกคัตเตอร์ในประเทศไทย
ดอกคัตเตอร์ เป็นดอกไม้เมืองหนาว ที่นำเข้ามาในประเทศไทยช่วงประมาณ 20 ปีที่แล้วจากอเมริกาหรือยุโรป โดยในช่วงแรกจะเป็นการนำมาปลูกในโครงการวิจัยตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อหาแนวทางพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับประเทศไทย
เมื่อพัฒนาสายพันธุ์ของดอกคัตเตอร์จนได้สายพันธุ์ที่เสถียรแล้ว มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จึงเริ่มกระจายให้กับเกษตรกรในชุมชนใกล้เคียงได้ทดลองปลูก ซึ่งช่วงแรกเกษตรกรพบว่าดอกคัตเตอร์ต้องได้รับการดูแลหลายขั้นตอนมากกว่า เมื่อเทียบกับการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น ๆ เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นการแยกหน่อ ปักชำ ให้แสง ฯลฯ จนทำให้หลายคนมองว่า “ดอกคัตเตอร์ ปลูกยาก” แต่ด้วยความต้องการที่สูงและสามารถขายได้สม่ำเสมอ ทำให้ยังคงมีการเพาะปลูกเรื่อยมา
ถึงแม้ในช่วงแรกเกษตรกรจะมองว่าดอกคัตเตอร์ปลูกยาก แต่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมจากการเพาะปลูกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความคุ้นเคย จนความยุ่งยากค่อย ๆ ลดลง ควบคู่ไปกับการเติบโตของตลาดดอกคัตเตอร์ที่ขยายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือความนิยมใช้ดอกไม้สีขาวในพิธีมงคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานบวช และงานขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งสื่อถึงความบริสุทธิ์และความเป็นสิริมงคล ส่งผลให้ความต้องการดอกคัตเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อความต้องการดอกคัตเตอร์เพิ่มสูงขึ้น การเพาะปลูกรูปแบบเดิมๆ ที่ใช้แรงงานอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะการปลูกด้วยแรงงานคนมีความไม่เสถียร รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทำให้หาคนเพาะปลูกได้ยากยิ่งขึ้น เราจึงต้องมาทดลองและค้นหาวิธีการเพาะปลูกใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการใช้รถปลูกผัก KP-202

วิธีการปลูกดอกคัตเตอร์
แรงงานคน VS รถปลูกผัก KP202
1. การปลูกดอกคัตเตอร์โดยใช้แรงงานคน
การปลูกดอกคัตเตอร์ด้วยแรงงานคน เริ่มต้นจากการเตรียมหน่อพันธุ์ ซึ่งได้จากการแยกหน่อหลังเก็บเกี่ยวและปล่อยตอทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน จากนั้นจึงเข้าไปแยกหน่อ เพื่อนำมาใช้เพาะปลูกตามขั้นตอนดังนี้
- ไถพลิกและตากหน้าดินตามปกติ
- ย่อยดินด้วยโรตารี่
- ชักร่องน้ำด้วยรถไถเดินตาม อาจได้ร่องที่ไม่สม่ำเสมอ
- จิ้มหน่อพันธุ์ลงแปลง 2 ต้น/ หลุม ระยะการปลูกไม่แน่นอน
- กล้าพันธุ์จะฟื้นตัวและเริ่มเจริญเติบโตได้ใน 7 วัน
2. การปลูกดอกคัตเตอร์โดยใช้รถปลูกผัก
การปลูกด้วยรถปลูกผัก KP202 เกษตรกรต้องเพาะกล้าพันธุ์หรืออนุบาลกล้าพันธุ์ก่อน เมื่อได้กล้าพันธุ์แล้วก็สามารถลงมือปลูกได้ทันที

- ไถพลิกและตากหน้าดินตามปกติ
- ย่อยดินโดย แทรกเตอร์ L5018SP ที่มีการติดตั้งโรตารี่ RX183 ทำการย่อยดิน 2-3 รอบ
- การยกแปลง ด้วยเครื่อง BF615 จะทำให้แปลงยกสูงขึ้น ผิวแปลงเรียบ และมีความเหมาะสมในการเตรียมปลูกดอกไม้
- ปลูกด้วยรถปลูกผัก KP202 หยอดกล้าพันธุ์ 1 ต้น/ หลุม ด้วยระยะปลูกที่มีความสม่ำเสมอ จะทำให้ดอกคัตเตอร์ได้รับธาตุอาหารและแสงแดดเพียงพอโดยไม่ต้องแย่งชิงธาตุอาหารกัน ทำให้แตกกอได้มากขึ้น


- ต้นกล้าสามารถเจริญเติบโตได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น ส่งผลให้ออกดอกไวขึ้นกว่าการปลูกด้วยแรงงานคนประมาณ 15 – 20 วัน
โดยสามารถศึกษาวิธีเพาะปลูกดอกคัตเตอร์อย่างละเอียดได้ที่ ปลูกดอกไม้หน้าหนาวด้วยเครื่องจักรกลการเกษตร
เปรียบเทียบผลลัพธ์การปลูกดอกคัตเตอร์ทั้ง 2 รูปแบบ

จากตาราง จะเห็นได้ชัดว่าการปลูกดอกคัตเตอร์ด้วยรถปลูกผัก KP202 มีประสิทธิภาพสูงกว่าการปลูกด้วยแรงงานคน ทั้งด้านการใช้ต้นกล้าที่น้อยลง ส่งผลให้ต้นทุนลดลง แต่ยังได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและปริมาณมากกว่า ชี้ให้เห็นว่ารถปลูกผัก KP202 เป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า สำหรับการปลูกดอกคัตเตอร์

รถปลูกผัก KP202 นวัตกรรมใหม่ เพื่อเกษตรกรยุคใหม่
รถปลูกผัก KP202 เครื่องจักรกลการเกษตรประสิทธิภาพสูง ที่ไม่เพียงปลูกดอกคัตเตอร์ได้ดี แต่พืชชนิดอื่น ๆ ก็ปลูกได้ดีไม่แพ้กัน เช่น ผัก ข้าวโพด หัวไชเท้า พริก มะเขือ และดาวเรือง เรียกได้ว่าคันเดียวเอาอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่แรงงานขาดแคลน การมีรถปลูกผักจะมาช่วย ให้การปลูกผักเป็นเรื่องที่ง่าย สะดวก และสบายมากยิ่งขึ้น

- รองรับการปลูกผักได้หลากหลายชนิด เช่น กะหล่ำปลี, ผักกาดขาว, กัญชา, พริก, ข้าวโพดหวาน, มะเขือ, ดอกไม้, หอม ฯลฯ
- ปรับระยะปลูกได้หลากหลาย ระยะปลูกแนวตั้ง 27 – 66 ซม. และ ระยะห่างระหว่างต้น มากกว่า 63 ระดับ (18–80 ซม.)
- ใช้งานได้ทั้งแปลงยกร่องและไม่ยกร่อง ยืดหยุ่นการเพาะปลูกทุกพื้นที่
- ถาดวางกล้า 6 ถาด เติมต้นกล้าได้ต่อเนื่องเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
- ระบบปลูกอัจฉริยะ ช่วยให้ปลูกได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
- หน้าจอดิจิทัลใช้งานง่าย ควบคุมและปรับค่าต่าง ๆ ได้สะดวก
- ระบบ Auto Monre ปรับองศารถอัตโนมัติในพื้นที่ไม่เรียบ
- ระบบ Hydraulic ปรับความลึกได้ 11 ระดับ ควบคุมความสม่ำเสมอของการปลูกได้ดี
- เกียร์ Low Speed รองรับระยะปลูกแคบพิเศษ (18 – 24 ซม.)
- ล้อหลังขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 670 มม.) เพิ่มความมั่นคงขณะวิ่งในแปลง
ต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถปลูกผัก KP202 สามารถติดต่อผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- KUBOTA CONNECT เบอร์ 02-029-1747
- Facebook Page: Siam Kubota และ Kubota Drone Club – คูโบต้าโดรนคลับ
- ศึกษาข้อมูลสินค้าคูโบต้าผ่านเว็บไซต์ Siam Kubota
- ติดต่อผ่าน LINE Official @siamkubota
- ค้นหาตัวแทนจัดจำหน่าย คลิกที่นี่